การจัดเวลาให้ท้องว่างนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
ระหว่างนอนหลับเรากินไม่ได้อยู่แล้ว
และอย่างน้อยทำแค่สัปดาห์ละครั้งก็ได้รับประโยชน์บ้างแล้ว
ทั้งอวัยวะภายในได้พัก ทั้งลดไขมัน ทั้งฟื้นฟูให้กลับมาอ่อนเยาว์สดชืน
คุณเคยรู้สึกท้องว่างจริงๆไหม
คุณเคยคิดบ้างไหมว่าแต่ละวันกินมากเกินไปหรือเปล่า
ปกติคุณจะกินก็เมื่อหิว หรือแค่กินไปตามเวลา
อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำำหรับการดำรงชีวิต
แต่ปริมาณและระยะเวลาของการกินก็มีอิทธิพลต่อการมีสุขภาพที่ดีได้เช่นกัน
「空腹」こそ最強のクスリ
"Hunger is the most strongest medicine"
หนังสือขายดีที่เขียนโดยนพ. อาโอกิ อัตซึชิ
คุณหมอได้บอกเล่าถึงประโยชน์ของการปล่อยให้ท้องว่างที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นในร่างกายในแบบที่เราไม่อาจมองข้ามได้
เศร้า หงอย หดหู่ ไร้คุณค่า
ไม่ว่าจะมาจากเหตุใด เช่น เครียดเรื้อรัง ฮอร์โมนไม่สมดุล ปัญหาสุขภาพฯลฯ
อย่าปล่อยให้ถึงขั้นซึมหนักจนหมดอาลัยตายอยากเลย
ลองสังเกตสัญญาณก่อนจะซึมจนกู้ลำบาก
จะได้รับมือแต่เนิ่นๆ
ในการสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนไม่ได้มีแค่เรื่องของการเงินเท่านั้น
การลงทุนให้ตัวเองเป็นการพัฒนาได้หลากหลายด้าน
ทั้งการลงทุนให้ได้มาซึ่งความรู้ ร่างกายที่มีสุขภาพดี และอื่นๆ
ทุกด้านล้วนสร้างประโยชน์ พัฒนา และเสริมสร้างทักษะให้เราเอง
ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการทำมาหากินหรือไม่ในตอนแรก
แต่ในอนาคตก็สามารถสร้างรายได้หรือสนับสนุนอาชีพที่ทำอยู่ก็เป็นได้
ในภาวะที่เรากำลังอยู่ท่ามกลางโรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้
การมีภูิมคุ้มกันที่แข็งแรงถือว่าเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยให้เราต้านทานกับภาวะนี้ได้ในระดับหนึ่ง
การมีด่านปราการป้องกันที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อสิ่งที่อาจจะเลวร้ายกว่าไม่ให้เกิดขึ้น
หรือแม้จะเกิดก็ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
หันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับด่านหน้านี้ด้วย 3 แนวทาง
1. แนวทางในพฤติกรรมการใช้ชีวิต
2. แนวทางการรับมือกับความเครียด
3. แนวทางด้านพฤติกรรมการกินและโภชนาการ
ความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ เนื่องด้วยแต่ละคนมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
บ่อยครั้งที่เราอาจจะอารมณ์เสียไปกับคนที่มองต่างและโต้แย้งกลับอย่างไม่ลดราวาศอก
ยิ่งแย่งกันพูดก็ยิ่งเติมเชื้อไฟให้การโต้แย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ กลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โตได้
ซึ่งอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงได้
หากเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ยาก ๆ กับคนยาก ๆ แล้ว
การโต้เถียงคืนก็อาจไม่ได้สร้างประโยชน์ให้แก่ใคร แถมทำให้ประสาทเสัยได้อีก
ลองฟังคำแนะนำนี้ดู เผื่อคราวหน้าจะได้ไม่เสียอารมณ์อีก
ร่างกายของเราถูกออกแบบมาให้ตอบสนองต่อการสัมผัส
เพื่อรับรู้สภาพแวดล้อม เพื่อการสื่อสารและสังคม เพื่อแสดงและรับรู้ทางอารมณ์
นับเป้นส่วนหนึ่งของวิถีการใช้ชีวิต
แต่เมื่อการ Social Distancing พรากเราให้วางตัวต่อกันใหม่
แล้วเราจะจัดการกับสภาวะที่ต่างกับธรรมชาติที่เราคุ้นเคยได้อย่างไร
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าการนอนหลับไม่พอทำให้สุขภาพเสีย
แต่การนอนหลับนานเกินไปก้ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน
การนอนทดแทนชั่วโมงการนอนที่หายไปใช่ว่าจะทำให้สดชื่น
แต่กลับทำให้สมองตื้อ ตัวหนัก และขี้เกียจ
รวมถึงโรคภัยที่หนักหนากว่า เช่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น
ดังนั้น ไม่ว่าจะวันไหน ๆ
วันทำงาน หรือวันหยุด ก็สมดุลชั่วโมงการนอนให้พอดีๆกันล่ะ
วัยทองหรือภาวะวัยหมดประจำเดือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องได้เจอ
เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งในชีวิตผู้หญิง
หลายคนอาจรู้สึกหาความสงบไม่ได้ในช่วงนี้
บางคนก็อาจไม่ทันสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้นกัยตัวเองบ้าง
บางคนก็กังวลที่รอบเดือนเริ่มหายไป
และเช่นกัน บางคนก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองถึงวัยที่ภาวะนี้มาถึงหรือยัง
หลายข้อมูลที่ได้ยินเขาว่ากันมากับคำถามที่อยู่ในใจ
มาคลายความสงสัยกัน กับประเด็นพื้น ๆ ที่เกี่ยวกับภาวะวัยหมดประจำเดือน
เหตุการณ์แบบนี้ ทาสแมวคงพอจะมีประสบการณ์กันมาบ้างแล้ว
ของเล่นดีๆมีไม่เล่น แต่ดันสนใจกล่องของเล่นมากกว่า
ที่นอนก็มีให้แต่กํดันชอบไปนอนที่ทีไม่ใช่ที่นอน
จะว่าไป น้องแมวก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรถูกอะไรแพง ทาสจ่ายมาเท่าไร
น้องก็แค่ชอบกล่องน่ะ ด้วยเหตุผลหลายประการ
มาลองฟังดูนะ จะได้รู้กัน
ควาเสื่อมเป็นเรื่องธรรมชาติ ความชราภาพเป็นเรื่องหลีกหนีไม่ได้
แต่อายุนั้นเป็นแค่ตัวเลขได้ด้วยการออกกำลังกาย
ดูอย่างคุณยายทากิมิกะ แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว แต่ยังฟิตปั๋ง
ยกเวตเห็นกล้ามเป็นลำ กางขาโน้มตัวสบายๆ
เดินได้วิ่งได้ ช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไม่มีปัญหา
แถมยังสอนทั้งคนรุ่นเดียวกัน และรุ่นเด็กกว่าให้ออกกำลังกายอย่างแข็งขัน
อยากหน้าตากระชากวัย และสูงวัยอย่างมีสุขภาพต้องอย่าละเลยการออกกำลังกาย
การงดอาหารเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ
การมีช่วงงดอาหารนับเป็ฯการเปิดโอกาสให้บางอวัยวะได้พักและบางอวัยวะได้ทำงานตามเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่การจะกินและการจะงดให้ได้รับประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ก็มีเรื่องจังหวะเวลามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ลองจัดปรับตารางการกินกันดู
การแสดงความรักสามารถสื่อสารออกมาได้หลายแบบ
รูปแบบที่ต่างกันก็เหมือนภาษาที่ต่างกัน
หากไม่เข้าใจภาษารักของอีกคน ก็อาจตีความหมายหรือเจตนาผิด
เช่นกันหากเขาไม่รู้ภาษารักของเรา ความรักที่แสดงออกไปนั้นก็อาจไร้ความหมาย
การเรียนรู้ภาษารักของกันและกัน ช่วยส่งเสริมความเข้าใจ และประสานความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
ความหิวมิได้ต้องตอบสนองด้วยอาหารเสมอไป
มันขึ้นอยู่กับประเภทของความหิว
และถึงแม้เป็นความหิวที่ต้องตอบสนองด้วยอาหาร
ก็ใช่ว่าจะกินปริมาณเท่าไรก็ได้
สำคัญกว่าคือ กินในปริมาณที่เรารู้ตัว และปริมาณที่จำเป็นจริง ๆ
ประสบการณ์แย่ๆ เป็นคู่ตรงข้ามกับประสบการณ์ดี ๆ
คู่ตรงข้ามทำให้เราได้ตระหนักว่า เวลามีอะไรดีๆ เข้ามา สิ่งที่เคยแย่มันไม่เป็นเป็นอดีตไปแล้ว
อะไรก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้จะวันดีๆ ก็จงมีสติ ไม่ประมาท พลาดท่าหากอีกวันมันจะกลับตาลปัตร
ทุกสรพพสิ่งไม่ว่าจะด้านบวกหรือลบ ล้วนมีบทเรียนให้เราเสมอ
อยู่ที่เราจะเอาพลังงานไปโฟกัสที่ด้านใด
"พักผ่อนนอนหลับ" วลีที่คุ้นเคยจนเราคุ้นชินว่าหากอยากพักก็ให้ไปนอน
แต่บางครั้งแม้จะนอนพักแล้วก็ยังไม่ฟื้นกลับมาสมองปลอดโปร่ง
หากเป็นเช่นนี้ ไม่ถือว่าผิดปกติ
แต่อาจเพราะเลือกรูปแบบการพักที่ไม่เหมาะกับสภาพความเหนื่อยของเรา
การพักไม่ใช่แค่การพักทางกาย แต่ยังแบ่งออกเป็น 7 รูปแบบ
ลองฟังดู เผื่อคราวหน้าจะได้พักให้ถูกทาง
อะไรที่ว่ากินแล้วดี กินแล้วไม่ดีนั้น เคยตั้งคำถามไหมว่าเราเอาคามเชื่อนั้นๆมาจากไหน
หากหมั่นหาข้อมูลเราก็น่าจะพอมั่นใจในส่ิงที่เราเชื่อ
แต่ก็คงมีไม่น้อยที่เราแค่ได้ยินมาหรือเขาแชร์กันมาว่าดี
เมื่อเขาว่าดีเราก็ว่าตามนั้นโดยไม่เคยลองเช็คแหล่งที่มาเลย
หนังสือ The Best Diet: Simple and Evidence-based Guide to Healthy Eating
เขียนโดย อ. ซึงาวะ ยูสุเกะ ได้รวบรวมประเด็นที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการวิจัยมากมาย
โดยเน้นเฉพาะหลักฐานที่เชื่อถือได้นำมาเสนอ
มุ่งเน้นเพื่อให้เจ็บป่วยได้ยาก และอายุยืนยาว
การเอาใจเขามาใส่ใจเรา นึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น นับเป็นส่ิ่งที่ดี
แต่หากเป็นการกระทำไปเพื่อเอาอกเอาใจอีกฝ่าย โดยเพิกเฉยต่อความรู้สึกของตัวเองหรือศักยภาพของตัวเอง ก็อาจนำพาความเดือดร้อนมาให้ตัวเองแทนก็ได้
ยิ่งหากเป็นการทำไปเพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบของอีกฝ่าย ก็เท่ากับปิดกั้นความเป็นตัวเอง แล้วยอมปล่อยตัวเองให้เป็นไปตามความต้องการของผู้อื่น
ส่งผลให้เราเสียความเป็นตัวของตัวเอง และนำมาซึ่งความเครียดสะสมได้ในภายหลัง
การเข้าใจภาษานั้นพึ่งพากิจกรรมทางสมองมากมายหลายอย่าง
ตั้งแต่การออกเสียง การทำความเข้าใจความหมาย การสร้างประโยค และไวยกรณ์
รวมถึงการใช้หูฟัง สายตาในการอ่าน ปากและอวัยวะทั้งหมดที่ใช้ในการออกเสียง
เราใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งอยู่ทุกวัน จนอาจไม่เคยสังเกตว่ากระบวนการทั้งหมดต้องเชื่อมต่อและรวดเร็วขนาดไหน
ยิ่งตั้งแต่ 2 ภาษาขึ้นไป กระบวนการเหล่านี้ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
และสมองต้องตื่นตัวเพื่อรับมือการสลับเปลี่ยนภาษา
รวมถึงประมวลผลที่ยิ่งยากขึ้นหากเป็นภาษาที่มีโครงสร้างต่างกันมาก ๆ และอาจมีบริบทจากความต่างทางวัฒนธรรมอีก
เหล่านี้ล้วนช่วยฝึกกระตุ้นการทำงานของสมองให้ตื่นตัว และตอบสนองอย่างเฉียบคมขึ้น
ในแต่ละวันเรามีสิ่งให้ตัดสินใจมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
อะไรเป็นสิ่งที่คำนึงจนส่งผลทำให้เราตัดสินใจเช่นนั้น
ส่วนใหญ่คนมักคำนึงถึงผลลัพธ์เป็นหลัก
แต่ผลลัพธ์ที่ดีก็ไม่ได้มากับการตัดสินใจที่ใช่เสมอไป ตัดสินใจพลาดแต่กลับเป็นเรื่องดีก็มีถมไป
ดังนั้น แทนที่จะคำนึงแต่ผลลัพธ์ ลองเปลี่ยนมาคำนึงถึงกระบวนการเพื่อการตัดสินใจ
เพื่อให้การตัดสินใจของเราเป็นไปอย่างรอบคอบมากขึ้น