เสียดายบางคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนงานเพราะอารมณ์ไม่ใช่เหตุผล ทำให้เกิดความผิดพลาด เสียโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ บางคนตัดสินใจเปลี่ยนงานครั้งเดียวถึงขั้นเสียอนาคตไปเลยก็มี ต้องระหกระเหเร่ร่อนเปลี่ยนงานไปตลอด

หลังจากเจอวิกฤติโควิด 19 เข้าไป ทุกอาชีพได้รับผลกระทบกันหมด อาชีพที่ปรึกษาก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการปรับตัวกันยกใหญ่ทั้งคนที่ทำอาชีพที่ปรึกษาเอง และลูกค้าที่เป็นองค์กร แต่การปรับตัวนี้น่าจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ง่ายกว่า สะดวกกว่าและประหยัดกว่า เพราะที่ผ่านมาบางครั้งให้คำปรึกษาออนไลน์ได้ แต่ลูกค้าไม่คุ้นเคย ที่ปรึกษาไม่ถนัด พอมาตอนนี้ทุกคนถูกบังคับให้ปรับพฤติกรรมเดิมไปเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้เกิดวิถีใหม่(New Normal) สำหรับคนทำอาชีพที่ปรึกษาในยุคนี้ ใครไม่ปรับตัวอาจจะตก Norm ของอาชีพไปเลยก็ได้นะครับ ต้องการพูดคุยกับผมติดต่อได้ที่ Line Official : @narongwit

จากคำถามของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ทำงานด้าน HR (บริหารทรัพยากรมนุษย์)รวมถึงเจ้าของกิจการ สอบถามกันมาเยอะว่าในช่วงวิกฤติ มีอะไรน่าทำบ้างเกี่ยวกับการบริหารคน การพัฒนาคน หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่จะทำให้พนักงานเห็นว่าองค์กร ผู้บริหาร ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลจริงๆ ติดต่อพูดคุยกับผมได้ที่ Line Official : @narongwit

ในช่วงวิกฤติแบบนี้ ผมอยากจะแบ่งปันแนวทางในการสร้างรายได้ง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทำอยู่ที่บ้าน ทำมากเท่าไหร่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับกับความขยันและทุ่มเทของแต่ละคน ผมได้ทดลองทำมาแล้วครับ บทความแรก 300 บาท และบทความต่อๆไปบทความละ 100 บาท ผมคิดว่าช่องทางนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหารายได้ในช่วงนี้ได้ แม้ไม่มากแต่ก็น่าจะเป็นรายได้อีกแหล่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ลองเข้าไปสมัครกันดูนะครับที่ https://creators.trueid.net/

ผู้นำเก่งดูได้ตอนสถานการณ์ปกติ แต่ถ้าอยากจะดูว่าผู้นำคนนั้นเก่งและแกร่งด้วยหรือไม่ ต้องดูกันตอนที่องค์กรเจอวิกฤติ และสถานการณ์โควิด 19 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่จะบอกว่าผู้นำคนไหนคือ “สุดยอดผู้นำ” ตัวจริง ติดต่อพูดคุยกับผมได้ที่ Line Official : @narongwit

เราคงเคยได้ยินคำว่า “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” แต่พอเราเจอวิกฤติโควิด 19 เข้าไป ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครทำอาชีพอะไร ทำธุรกิจอะไร ต่อจากนี้ไป เราคงจะต้องท่องจำไว้ว่า “ความมั่นคงคือความไม่มั่นคง” เพราะนักบินยังตกงานได้ โรงแรมยังปิดกิจการได้ ฯลฯ ท่องคำนี้ไว้เพื่อให้เราเตรียมตัวรับมือกับความไม่แน่นอน ไม่ยึดติดกับความมั่นคงมากจนเกินไป เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา หากต้องการติดต่อพูดคุยกับผมได้ติดได้ที่ Line Official : @narongwit

คนแก่ไม่ใช่ภาระ คนแก่ไม่ใช่แค่คนอายุเยอะ แต่เป็นคนสูงวัยที่ต้องการกำลังใจจากลูกหลาน เพื่อต่อสู้กับความถดถอยของกำลังกายและจิตใจ จากคนที่เคยเป็นผู้นำ คนเคยสำเร็จ คนเคยทำอะไรด้วยตัวเองได้ทุกอย่าง แต่มาวันนี้ทำอะไรได้น้อยลงๆจนบางคน ทำอะไรไม่ได้เลย ลูกหลานคือคนสำคัญที่จะเป็นยาวิเศษในการสร้างกำลังใจให้คนสูงวัยได้ต่อสู้กับวัยที่ถดถอยลงไปเรื่อยๆ ลองมาฟังกันดูนะครับว่าคนสูงวัยเขาน่าคิดและรู้สึกอย่างไรกันบ้างนะครับ ติดต่อพูดคุยกับผมได้ที่ Line Official : @narongwit

หลายองค์กรคงจะเคยทำโครงการพัฒนาบุคลากรดาวเด่น(Talent Management) โดยดูจากความรู้ ฝีมือ และผลงานในสถานการณ์ปกติที่องค์กรมีความพร้อมในทุกๆด้าน แต่ในช่วงวิกฤตินี้ ถ้าอยากจะรู้ว่าดาวเด่นเก่งจริงหรือไม่ และแกร่งด้วยหรือไม่ แนะนำให้ประเมินและทดสอบโดยใช้วิกฤติที่เกิดขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่าดาวเด่นคนไหนคือตัวจริง ดาวเด่นคนไหนที่จะกลายเป็นดาวดับหรือเป็นดาวตก สำหรับวิธีการในการประเมินคงไม่ยากนัก เพราะในสภาวะวิกฤติโจทย์เกิดขึ้นเองอยู่แล้วไม่ต้องมีใครมานั่งออกข้อสอบ ทดสอบหรือตรวจข้อสอบให้เสียเวลา เอาของจริงทดสอบเลยครับ

จากคนที่เคยวิ่งนอกบ้าน วิ่งในสนามที่มีพื้นที่กว้างๆ แต่ถูกสถานการณ์บังคับให้มาวิ่งในบ้านซึ่งมีพื้นที่แคบ ระยะทางการวิ่งจากเดิมเคยวิ่งรอบสวนหลวง ร.9 รอบละ 5 โล เหลือระยะทางให้ซ้อมวิ่งในบ้านแค่ระยะทาง 10 เมตร เราจะปรับกรอบแนวคิดในการวิ่งอย่างไรให้ยังมีความสุขและสนุกกับการวิ่งเหมือนเดิมหรือน้อยกว่าเดิมไม่มากนัก ลองมาฟังกันดูนะครับ พูดคุยกับผมได้นะครับที่ ณรงค์วิทย์ แสนทอง Line Official : @narongwit

แม้จะรู้ว่ากำไรคือหัวใจขององค์กรธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงแล้วเวลาทำงาน แต่ละหน่วยงานมักจะเน้นเป้าหมายและผลงานของหน่วยงานตัวเองมากกว่ามาใส่ใจกำไรจริงๆจังๆ คนที่ซีเรียสและอินน์กับเรื่องกำไร ก็คงจะมีแค่ซีอีโอหรือผู้บริหารด้านการเงินเท่านั้นเอง ถ้าเราอยากให้คนในองค์กรเข้าใจและรู้สึกมีส่วนร่วมกับคำว่า “กำไร” ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ควรทำอย่างไร ลองมาฟังดูนะครับ ติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ณรงค์วิทย์ แสนทอง Line Official : @narongwit

หลังวิกฤติโควิด ผมเชื่อว่าองค์กรต่างๆคงจะต้องปรับโมเดล แนวทางการจัดทำแผนกลยุทธ์กันใหม่ โดยการนำเอาแผนวิกฤติเข้ามาเป็นวาระประจำ ไม่ใช่ทำครั้งเดียวใช้ตลอดไปเหมือนในอดีต

ผมอยากจะเล่าเรื่องจริงที่ไปสังเกตเห็นมาเพื่อยืนยันว่าคำว่า “ผู้จัดการ” โดยตำแหน่ง กับ “ผู้จัดการที่มีภาวะผู้นำ” แตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะเห็นภาวะผู้นำได้ชัดเจนมากตอนที่เกิดปัญหา ตอนที่ต้องตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่ไม่อยู่ในกฎระเบียบหรือนโยบายที่กำหนดไว้ วัดกันได้ชัดเจนว่าใครมีหรือไม่มีภาวะผู้นำ วัดกันได้ว่าใครเป็นเพียง “ผู้จัดการ” ใครเป็น “ผู้จัดการตัวจริง” ติดต่อพูดคุยกับผมได้ที่ Line Official : @narongwit

เราใช้ปรับเปลี่ยนมุมมอง แนวคิดในการใช้ชีวิตในช่วงวิกฤติได้อย่างไร เพื่อให้ชีวิตดีกว่าที่เป็นอยู่