คุณมองเห็นการเจ็บป่วยระยะท้ายแบบไหน ? ระหว่างการที่ได้รับการรักษาทุกรูปแบบโดยอาจจะไม่สามารถสื่อสารกับคนที่รักได้ หรือการที่ได้มีเวลาอยู่กับคนที่รักแบบยังมีสติและสื่อสารบอกความรู้สึกให้กับพวกเขาได้อยู่  . Palliative care หรือชื่อไทยว่าการดูแลแบบประคับประคอง มีคนเข้าใจผิดมากว่าเป็นการไม่รักษาแล้ว แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่มีการปล่อยจอยไม่รักษาชีวิตผู้ป่วย เพียงแต่ไม่มีการเร่งและไม่ยื้อชีวิต เพื่อต้องการให้ผู้ป่วยวาระท้ายได้มีคุณภาพชีวิตที่ต้องการมากที่สุด เช่น แทนที่จะต้องโดนเสียบสายเพื่อหายใจ เพื่อรักษา เพื่อให้อาหาร แต่เปลี่ยนมาเป็นการได้ได้กินอาหารที่อยากกิน ได้อยู่พูดคุยล้อมรอบด้วยคนที่รักแทน . แล้วการดูแลแบบนี้นั้นมีข้อดีอย่างไร ? วาระที่มีคุณภาพนั้นเป็นแบบไหน ? ควรเข้าไปเริ่มการดูแลตอนไหน แล้วมีโรคอะไรที่ควรเริ่มการดูแลแบบนี้บ้าง ? รายการใน Episode นี้มีคำตอบให้กับทุกคน ดำเนินรายการโดย กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family และ แพทย์หญิง นิษฐา เอื้ออารีมิตร  ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงพยาบาลคูน

‘มัวแต่ให้อภัย เมื่อไหร่จะได้แก้แค้น ?’  . วลีที่มีคนคิดกันขึ้นมาสะท้อนความรู้สึกบางอย่างได้ดี แล้วถ้าเป็นช่วงวาระสุดท้ายเราจะจัดการความรู้สึกที่มีกับคนที่เราเกลียดได้ยังไงกันนะ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่า, หัวหน้าเก่า, เพื่อนที่ไม่คืนเงินเรา, เพื่อนร่วมงานที่เคยใส่ร้ายเรา และอีกมากมาย . ผ่านมาหลายตอนเราได้ทำความเข้าใจในเรื่องการเตรียมตัว เตรียมใจสำหรับในวาระสุดท้ายกันแล้ว โดยเรามักจะนึกถึงทั้งคนที่เรารัก คนที่รักเรา .แต่สำหรับคนที่เราไม่ชอบหน้าจะต้องจัดการความสัมพันธ์นี้ยังไง จะปล่อยไปหรือจะต้องแก้แค้นให้ได้ หลายคนมักจะมองวาระสุดท้ายเป็นเรื่องของความสงบทางจิตใจการให้อภัยจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม แต่หลายคนรู้สึกว่าอยากล้างแค้น ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ถ้าเราได้สำรวจลึกลงไปในความโกรธหรือเกลียดอาจจะช่วยให้เราได้พบเจอความรู้สึกใหม่ภายในใจของเราก็ได้ และขอชวนให้ทุกคนได้ลองฟังรายการตอนนี้ไปพร้อมกันว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในลึกๆของเรานั้นเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่

ถ้าเราหรือคนที่เรารักจากไป จะจัดการโซเชียลมีเดียหรือแอพต่างๆ กันยังไงดี ? บางคนที่จากไปแล้ว แต่ในหน้าโปรไฟล์ยังมีเพื่อนมาทักทาย-อวยพรวันเกิดอยู่ก็อาจจะทำให้ทายาทรู้สึกยังยึดติดอยู่รึเปล่า ? ถ้าปิดไปเลยมันจะยังไง  หรือรูปภาพและวีดีโอที่มีหน้าผู้จากไปอยู่จะถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวอะไรรึเปล่า  แล้วเรามีทางเลือกอะไรบ้างนะ? หลายๆ แพลตฟอร์มต่างก็มีรูปแบบการจัดการที่ไม่เหมือนกัน มีทั้งให้เราสามารถแต่งตั้งผู้ดูแลบัญชี เลือกว่าจะเปิดไว้แบบเดิม หรือปิดบัญชีไปก็ได้ แอพพลิเคชั่นต่างๆสามารถส่งต่อให้ทายาทได้ หรือถ้าเป็นของที่เอาไว้ใช้หารายได้ เราสามารถแต่งตั้งผู้ดูแลร่วมไว้ก่อนที่จะจากไป ไปจนถึงส่งมอบให้เป็นมรดกแก่ทายาทได้ด้วย แล้วรายละเอียดของแต่ละอันเป็นยังไงกันบ้าง ? ขอเชิญไปฟังกันได้ในรายการตอนนี้  เริ่มวางแผนเตรียมมรดกแบบดิจิตอลนี้ไว้กันแต่เนิ่นๆ นะ เพราะมันใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดจริงๆ ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family

เรามีพ่อแม่กันแค่คนเดียวนะ และคงน่าเศร้ามากถ้าไม่มีโอกาสได้บอกลากันครั้งสุดท้าย เมื่อเราโตขึ้นมาอยู่ในวัยทำงาน สิ่งหนึ่งที่หลีกหนีไม่ได้คือการที่พ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีอายุมากขึ้น และเกิดเจ็บป่วยไปจนถึงเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งก็ต้องการการดูแล แต่ในวัยทำงานนั้นสิทธิ์ในการลานั้นกลับจำกัดอยู่แค่การลาป่วย หรือลากิจ ซึ่งอย่างหลังก็มีจำนวนวันที่น้อยมากต่อปี หรือที่แย่กว่านั้นคือเจ้านายกลับไม่อนุญาตให้ลางานไปได้ ทำให้ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถไปดูใจกันครั้งสุดท้ายได้ไปอีกยาวนาน รายการ Meet the Deadline ในตอนนี้จะพูดถึงเรื่องของการ ‘ลาเพื่อไปบอกลา’ ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วใครเคยเจอสถานการณ์การ  ‘ลาเพื่อไปบอกลา’ ในรูปแบบไหนบ้าง มาแชร์ให้ฟังกันได้นะตอนนี้มีการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ให้มีสิทธิลาไปดูแลคนที่รัก โดยผ่านในวาระ 1 ไปแล้ว ถ้าใครที่สนใจและเห็นด้วยก็อยากให้ช่วยกันส่งเสียงสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ. นี้ด้วยนะ ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family

ตลอดเวลาที่เราได้ใช้ชีวิตมา มีสิ่งของมากมายที่เราได้ซื้อหรือได้รับมา บางชิ้นเป็นของมีมูลค่า บางชิ้นเป็นของมีคุณค่าทางใจ บางชิ้นเป็นเอกสารสำคัญ ทำให้หลายครั้งที่เมื่อเจ้าของข้าวของได้จากไป สิ่งของพวกนี้ก็กลับไปสร้างปัญหาให้กับผู้ที่อยู่ข้างหลัง เพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไร  Death cleaning แนวคิดการจัดการบ้านก่อนจากไปได้เกิดขึ้น เพื่อช่วยให้เราได้รู้ว่าข้าวของต่างๆ ชิ้นไหนที่มีความหมาย ชิ้นไหนที่เราอยากส่งต่อ จนถึงชิ้นไหนที่ไม่จำเป็นกับเรา เพื่อให้เราจากไปได้อย่างเบาใจ และไม่สร้างภาระให้กับผู้ที่ยังอยู่ หรือถ้าไม่ได้จัดการไว้ก่อน เราจะทำอย่างไรให้ไม่รู้สึกผิดกับการจัดการข้าวของพวกนี้กันได้บ้างนะ ? รายการ Meet the Deadline ในตอนนี้คงพอจะให้เห็นภาพกว้างของการจัดบ้านก่อนจาก แล้วการจัดบ้านของคุณเป็นอย่างไรบ้าง มาเล่าให้ฟังกันได้นะ

ไม่มีใครหนีความแก่ และการเจ็บป่วยได้  พ่อแม่ของเราก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน  วันหนึ่งเค้าจะต้องแก่เฒ่า เจ็บป่วย และอาจจะช่วยเหลือดูแลตัวเองไม่ได้ เราในฐานะลูก-ก็ต้องหาวิธีในการดูแลกัน แต่เงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความพร้อมทั้งการงานการเงินก็ไม่เท่ากัน บางคนทำงานอยู่คนละจังหวัด บางคนพ่อแม่ก็แก่เฒ่า ลูกเต้าก็ยังต้องดูแล บางคนบ้านไม่มีความพร้อมต้องหาสถานดูแลคนชรา หรือการหาพยาบาลมาดูแลที่บ้าน  ซึ่งทั้งหมดก็นำมาซึ่งความรู้สึกทั้งเสียดายและรู้สึกผิดในฐานะลูก ที่สังคมบอกกล่าวให้การดูแลพ่อแม่เป็นการตอบแทนบุญคุณ แล้วความรู้สึกของพ่อแม่นั้นเขาคิดอย่างไร? ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะทำยังไงได้บ้าง ? ทั้งในเรื่องของการเตรียมตัว และเตรียมความรู้สึก รายการ Meet the Deadline ในตอนนี้คงพอจะให้เห็นภาพกว้างของทางเลือกที่ทุกคนมี การดูแลพ่อแม่ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง มาเล่าให้ฟังกันได้นะ ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family 

เราได้ยินกันมาตลอดว่าเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกจัดงานศพเพื่อการเดินทางครั้งสุดท้ายของเราได้ หลายครั้งเราจัดงานศพกันตามความเคยชินที่เคยเห็นกันมา แต่จริงๆ แล้วด้วยความที่งานศพอาจจะไม่ได้จัดขึ้นแด่ผู้จากไป แต่เราสามารถคิดและออกแบบงานศพเพื่อผู้ที่ยังอยู่ข้างหลังได้ด้วยนะ ถ้าเราหันมามองความหมายและคุณค่าในการมีชีวิตของเรา เราสามารถเลือกออกแบบงานศพกันใหม่ได้ไหมนะ? ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิธีทางศาสนา, งบประมาณในการจัดที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ลูกหลาน, งานศพที่ลดขยะและรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด, หลายคนชอบทำอาหารเลี้ยงเพื่อนอาหารงานศพอาจจะไม่ต้องเป็นข้าวต้มก็ได้ ไปจนถึงชุดที่ใส่มาในงาน, รูปหน้าศพ, ของชำร่วย, playlist ดนตรีภายในงาน หรือเราจัดงานล่วงหน้าก่อนจากไปจริงๆ ได้ไหม และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าใครคิดออกแบบงานศพกันไว้แบบไหนมาแชร์กันได้นะ และเราอาจจะพบว่างานศพไม่ได้ไกลตัวเท่าที่เราคิดก็ได้ ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family

ทุกวันนี้ที่เราเลือกจะไม่มีลูกกัน และหลายคนหันไปหาสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนชุบชูใจแทน และความจริงที่ต้องยอมรับคือสัตว์เลี้ยงนั้นมีอายุสั้นกว่าเรา และสามารถจะจากไปได้จากหลายสาเหตุ การเตรียมรับมือการจากไปนั้น อาจจะเป็นเรื่องของการตระเตรียมให้ทุกเวลาที่เราอยู่ด้วยกันคุ้มค่า จนแม้จะจากกันไปก็ไม่เสียดาย ใน EP02 นี้จึงอยากชวนหาวิธีการดูแล และทำใจของบรรดาเจ้าของน้อนทั้งหลาย ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family ติดตามรายการได้ในช่องทางเหล่านี้

พอได้มองเห็นหน้าพ่อกับแม่ดีๆ ก็รู้สึกว่าเค้าแก่ขึ้นเยอะเหมือนกันนะ . พอเราเรียนจบแล้วมาทำงาน เรามัวแต่ยุ่งแต่กับงานจนอาจจะลืมคนที่บ้าน กลับไปเยี่ยมบ้านน้อยลง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นพวกเขาแก่ลง ต้องไปโรงพยาบาล หรือมีโรคประจำตัวมากขึ้น และเราก็พบว่าเราไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจกับการจากไปของคนที่บ้านไว้เลย . การจากลาเป็นเรื่องปกติ แต่การมีอะไรค้างคาจนรู้สึกเสียดายก่อนจากไปนั้นเป็นเรื่องที่สามารถป้องกัน และแก้ไขได้ ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์ ทรัพย์สิน ความรู้สึก การดูแลรักษาในช่วงบั้นปลาย ไปจนถึงพิธีและงานศพที่อยากให้เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นการจากไปอย่างไม่มีอะไรติดค้างทั้งผู้จากไปและผู้ที่ยังอยู่ การ ‘ตายดี’ แบบนี้นั้นเริ่มต้นได้ด้วยการ ‘พูดคุยกันถึงวาระสุดท้ายของชีวิตกับพ่อแม่’ แน่นอนว่าหลายคนไม่เคยทำ ไม่กล้าทำ และไม่รู้พ่อแม่จะอินด้วยรึเปล่า  . รายการตอน EP01 นี้จึงอยากชวนหาวิธีทำให้การคุยเรื่องนี้เป็นธรรมชาติกับทุกฝ่าย  แล้วคุณจะพบว่าการคุยเรื่องวาระสุดท้ายของชีวิตไม่ได้น่ากลัว และน่าจะทำกันตั้งนานแล้ว ดำเนินรายการโดย ธัญวัฒน์ อิพภูดม - The MATTER และ กอเตย - ปิญชาดา ผ่องนพคุณ - Death Planner นักวางแผนการตายดี และผู้ก่อตั้ง Baojai Family

เรื่องอัปมงคลใครเค้าคุยกัน ! นี่แช่งกันเหรอ ? . เราไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องวาระสุดท้ายของชีวิต บ้างก็เป็นเพราะคิดว่ามันอยู่ไกลกว่าที่คิด บ้างก็คิดว่าพ่อแม่ไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ บ้างก็แอบคิดว่ามันน่ากลัวเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้ . รายการตอน EP00 นี้จึงอยากมาเล่าให้ฟังก่อนว่า เมื่อเราไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจคุยกันเรื่องนี้มาก่อน อาจจะมีความเศร้าเสียใจ และความเสียดายอีกมากมายตามมาอีกมาก ซึ่งจะมีประเด็นอะไรบ้างนั้นไปตามดูในรายการตอนนี้ได้เลย แล้วคุณจะพบว่าการคุยเรื่องวาระสุดท้ายของชีวิตไมไ่ด้น่ากลัว และน่าจะทำกันตั้งนานแล้ว