เรื่องราวการฆาตกรรมที่เกือบจะแนบเนียนที่สุด โดยเด็กสาวสามคน
ฆาตกรที่ยังอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ผู้มีร่างอันผอมบางและบุคลิกที่ดูไม่น่าจะเป็นฆาตกรเอาเสียเลย เธอยอมรับว่าเธอเป็นคนฆ่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอเอง … เธอทำไปทำไมนะ
จะเป็นอย่างไรถ้าเรามีเทพเจ้าหลายรูปแบบคอยคุ้มครองชีวิตเราอยู่…แต่เทพเหล่านี้ก็มามาไปไปซะด้วยสิ
ภาคต่อของสี่ปีนรกในเขมรเรื่องราวแห่งความยากลำบากที่ไม่ควรมีใครที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมเหล่านี้
เรื่องราวของครอบครัวผู้ตกทุกข์ได้ยาก จากที่เคยสบายอยู่ดีดีแล้ววันนึงต้องมาตกระกำลำบากย้ายไปอยู่ห้องเช่าขนาดเล็ก มาดูกันว่า เขาเหล่านั้นจะหาทางออกกับชีวิตนี้ได้อย่างไรเมื่อเราอยู่ในสภาวะแห่งความจมไม่ลง!
ในสภาวะที่เรากำลังเผชิญสถานการณ์ที่โหดร้ายที่สุด ไม่มีทั้งความหวัง ไม่มีทั้งความฝัน สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่คือ การใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ผ่านพ้นไปและรอคอยที่จะมีชีวิตรอดเพื่อกลับไปเล่าให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานฟัง… หนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่างที่จะบอกกับเราว่าเมื่อวันที่เราทุกข์ที่สุดเราจะผ่านพ้นมันไปได้อย่างไร
ในวันที่แย่…ร้านเราก็ยังมีแซนด์วิชไข่ไว้ให้กินนะ
หมู่บ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง เมื่อมีประชากรย้ายเข้ามาอยู่ใหม่หนึ่งคน ถ้าเขาคนนั้นไม่ใช่ฆาตกรแล้วใครกันล่ะคือฆาตกรตัวจริง
เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่สูญสิ้นแล้วกับความหวังทุกอย่างในชีวิตจนกระทั่งมีคนยื่นมือเข้ามาเพื่อให้เขาได้กลับมาใช้ชีวิต อย่างมีความหมายอีกครั้ง
จริงหรือที่ว่าบ้านสามารถสร้างความโชคร้ายให้กับเรา…. เรื่องราวของห้าครอบครัวกับบ้านหลังหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้านแห่งความโชคร้าย
เรื่องราวของหญิงสาวที่กำลังสานต่อร้านอาหารของครอบครัวโดยเธอได้รับเงื่อนไขจากคุณแม่ว่าต้องทำอาหารให้คน 7 คนได้ทานเพื่อปลดพันธนาการบางอย่างของชีวิตผู้คนเหล่านั้น
โศกนาฏกรรมของหญิงสาวทั้งห้าแห่งตระกูลลิสบอน
จากหัวใจที่แหลกสลาย…เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ด้วยน้ำผึ้งเพียงหยดเดียว
เมื่อแพทย์นิติเวชไปรับคำร้องขอจากอาจารย์ผู้มีพระคุณให้ดูแลสิ่งของสิ่งหนึ่ง แต่ของสิ่งนั้นกลับเป็นมนุษย์ประหลาด (เอ๊ะ หรือว่าจะไม่ใช่มนุษย์นะ)
เมื่อคนรักจากไปโดยไม่บอกลา ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เลยเกิดภาวะหัวใจแหลกสลาย แต่โชคยังดีที่มีผู้ชายอีกคนหนึ่งมาช่วยเยียวยาหัวใจ ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป คนรักเก่าของเธอก็ได้กลับมาอีกครั้ง
ตำนานเล่าขานถึงอสุรกายที่น่ากลัว พรากชีวิตคนในเกาะไปเป็นจำนวนมาก จนก่อให้เกิดพิธีกรรมถอดกระดูกของผู้เสียชีวิต หากแต่พิธีกรรมดังกล่าว ยังมีความลับดำมืดซ่อนอยู่
เรื่องราวของอดีตสาวออฟฟิศที่ตัดสินใจลาออกจากงานกะทันหันเพื่อที่จะมาพบว่าแม่ของเธอก็ลาออกจากการทำธุรกิจมาเพื่อเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในวัย 50 ปี! เมื่อหน้าที่บทบาทของแม่และลูกต้องสลับกันในวัยผู้ใหญ่ ความปวดหัวก็เตรียมบังเกิด ณ บัดนี้
เรื่องราวทั้งสะเทือนขวัญทั้งสั่นประสาทหลอมรวมกันอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ใครที่อยากอ่านเรื่องราวแบบที่เราเองนั้นก็เดาไม่ถูกว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ขอเชิญพบกับ #ถึงเวลาเล่าความจริง
เด็กสาวมัธยมศึกษาตอนปลายที่ถูกแม่ทิ้ง ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ด้วยการเปิดร้านอาหารริ่มฝั่งทะเลด้วยต้นทุน 0 เยน เรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่จะบอกพวกเราว่า แม้ในวันที่โชคร้าย เราก็ยังได้รับความหวังดีจากเพื่อนคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเราด้วยเช่นกัน
เรื่องราวของบรรณาธิการหนุ่มผู้ชอบทำอาหาร และมื้ออร่อยที่ว่านี้ก็ฮีลใจคนได้อีกหลายคน ใครอยากทานของอร่อย ก็อย่าลืมทานเอ้ย…อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยนะ