
พระธรรมบทเพลงคร่ำครวญ
เป็นสถานการณ์ที่สุดแสนโหดร้ายเลยนะ
ลองจินตนาการถึงสงครามไทยพม่าก็ได้ แพ้ศึกสิ้นชาติ ยากลำบาก
คือไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว
ถามว่าน่าสงสารไหม...พูดยากนะ
ชีวิตเจออะไรที่โหดร้ายขนาดนั้นก็น่าสงสารแหละ
แต่ลองนั่งนิ่งๆแล้วคิดสิว่า..
เตือนมากี่รอบแล้วว่าอย่ามีพระอื่น
อิสราเอลก็นะ ปฏิเสธพระเจ้าจนเกิดการพิพากษาขึ้นจนได้
แต่การพิพากษานี้เพื่อช่วยอิสราเอลในเฟสต่อไปอีกนั่นแหละ
พระธรรมบทเพลงคร่ำครวญ เป็นงานที่มี 5 บท จากผู้เขียนนิรนามผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์หายนะ การล่มสลายของเยรูซาเล็มและพระวิหาร โดยบาบิโลนในปี 587 ก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอลขณะนั้น เป็นการ รำลึกถึงความเจ็บปวด ของชาติอย่างซับซ้อน บทคร่ำครวญนี้เป็น หนทางระบายความรู้สึก ความโกรธ ความผิดหวัง และถามคำถามต่อพระเจ้าเกี่ยวกับความทุกข์ยาก พระคัมภีร์ให้ ศักดิ์ศรีสูงส่งกับความทุกข์ยากของมนุษย์
โครงสร้างส่วนใหญ่ (บทที่ 1-4) ใช้ กลอนเรียงอักษร (Acrostic) ตามอักษรฮีบรู 22 ตัว ซึ่ง ขัดแย้งกับความเจ็บปวดอันไร้ระเบียบ บทที่ 1 เปรียบเยรูซาเล็มเป็นสตรีผู้คร่ำครวญโดดเดี่ยว (ธิดาแห่งศิโยน) บทที่ 2 แสดงว่าการล่มสลายเป็นผลจาก บาปของอิสราเอลและพระพิโรธอันชอบธรรมของพระเจ้า ท่ามกลางความทุกข์ บทที่ 3 ให้ ความหวังจากความสัตย์ซื่อและเมตตาของพระเจ้า โดยมองว่าการพิพากษาเป็นเหมือน เมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง บทที่ 4 บรรยาย ความทุกข์ทรมานของการปิดล้อม อย่างชัดเจน บทที่ 5 เป็น คำอธิษฐานร่วมของชุมชน โดยไม่มีโครงสร้างอักษร แสดงถึงความเศร้าที่ปะทุออกมาและขอความเมตตา พระธรรมจบลงด้วย ความตึงเครียดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ยืนยันว่า การคร่ำครวญและความเจ็บปวดเป็นส่วนสำคัญในเส้นทางความเชื่อ ท่ามกลางโลกที่แตกสลาย