Home
Categories
EXPLORE
True Crime
Comedy
Society & Culture
Business
News
Sports
TV & Film
About Us
Contact Us
Copyright
© 2024 PodJoint
00:00 / 00:00
Sign in

or

Don't have an account?
Sign up
Forgot password
https://is1-ssl.mzstatic.com/image/thumb/Podcasts123/v4/16/1d/54/161d5462-4d23-027f-3307-0464e8e2ae9c/mza_18387210849011822096.jpg/600x600bb.jpg
มองอดีต
Thai PBS Podcast
182 episodes
9 months ago
มองอดีต
Show more...
TV & Film
RSS
All content for มองอดีต is the property of Thai PBS Podcast and is served directly from their servers with no modification, redirects, or rehosting. The podcast is not affiliated with or endorsed by Podjoint in any way.
มองอดีต
Show more...
TV & Film
Episodes (20/182)
มองอดีต
มองอดีต EP. 83: ช้างในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลัง พ.ศ. 2475

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 รัฐบาลคณะราษฎร ได้ฟื้นฟูการทูตสวนสัตว์โดยในปี 2478 โดยได้ส่งช้างไปสานสัมพันธ์ตามคำขอของรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ชื่อ พังวันดี ซึ่งได้รับการต้อนรับจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น พังฮานาโกะ แต่ในเวลาไม่นานเกิดอาการป่วยและล้มในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (สงครามมหาเอเชียบูรพา) และในยุคที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลก รัฐบาลไทยได้ส่งตัวแทน คือ ร.อ.สมหวัง สารสาส นำช้างที่มีชื่อว่า พังคชา ไปให้ญีปุ่น จัดแสดงที่สวนสัตว์อุเอโนะ โดยชาวญีปุ่นให้ชื่อว่า พังฮานาโกะ ตัวที่ 2 โดยเดินทางไปในเดือนกันยายน พ.ศ. 2492 และได้ล้มลงในปี 2559 รวมอายุ 69 ปี

Show more...
4 years ago
26 minutes 44 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 82: รัชกาลที่ 5 และ 7 กับการใช้ช้างสื่อสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ในคราวที่สร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ได้มีการสร้างช้างสำริดขึ้นบริเวณอัฒจรรย์ทางขึ้นพระที่นั่ง โดยรัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์เป็น 2 นัยคือ 1. เพื่อทบทวนอดีตของตำแหน่งที่ตั้งของพระที่นั่ง โดยตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 เคยเป็นโรงช้างเผือก 2. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของบ้านเมืองและพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ ส่วนในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานรูปปั้นช้างไปที่ไซ่ง่อน อีกด้วย

Show more...
4 years ago
26 minutes 19 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 81: พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับการทูตสวนสัตว์

ในขณะนั้นกลุ่มประเทศตะวันตกได้จัดให้มีการตั้งสวนสัตว์ขึ้น โดยรวบรวมสัตว์จากต่างประเทศทั่วโลกไปจัดแสดง รัชกาลที่ 4 ทรงทราบว่าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีช้างเป็นสัตว์ประจำถิ่น พระองค์มีพระราชหัตถเลขาถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะส่งช้างไป 1 คู่ เพื่อจัดแสดงในสวนสัตว์รวมทั้งเพาะขยายพันธุ์ โดยประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ได้ตอบปฏิเสธและให้เหตุผลว่า ภูมิอากาศไม่เหมาะกับช้าง รวมถึงพลังเครื่องจักรไอน้ำเริ่มเจริญมากขึ้น นอกจากนี้รัชกาลที่ 4 ยังได้ติดต่อสัมพันธ์กับทางอังกฤษและฝรั่งเศสอีกด้วย

Show more...
4 years ago
27 minutes 2 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 80: พระมหากษัตริย์ ช้างและความสัมพันธ์สมัยต้นรัตนโกสินทร์

การติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติผ่านเรือสินค้าไปยังต่างประเทศ สิ่งที่ยืนยันความเป็นรัฐของเรือแต่ละลำคือการประดับด้วยธง สมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้นำรูปช้างเผือกสีขาวติดลงบนธงสีแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ของสยาม นอกจากนี้ยังติดต่อค้าขายกับประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยในสมัยประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็กสัน ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 3 มีนโยบายติดต่อการค้ากับสยาม ได้ส่งนายเอดมันต์ โรเบิตส์ มาเป็นทูต พร้อมทั้งนำสารของประธานาธิบดีและเครื่องบรรณาการเข้ามาถวายรัชกาลที่ 3 โดยหนึ่งในเครื่องบรรณาการคือ ดาบและฝักทองคำ โดยฝักทองคำแกะสลักเป็นดวงดาว ด้ามดาบทำเป็นรูปสัตว์ 2 ชนิดคือ นกอินทรีและช้างเผือก ทำให้ทราบว่าขณะนั้นในโลกตะวันตกรู้ว่าสัญลักษณ์สำคัญของสยามคือ ช้างเผือก

Show more...
4 years ago
27 minutes 50 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 79: ช้างกับความสัมพันธ์ต่างรัฐในสมัยอยุธยา

ช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของชนชาวภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ ที่มีความสำคัญโดยได้รับความเชื่อมาจากวัฒนธรรมอินเดีย โดยเฉพาะช้างเผือก ถือว่าเป็นสัตว์ที่ส่งเสริมพระบารมีของพระมหากษัตริย์ ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงได้รับการขนานพระนามว่า พระเจ้าช้างเผือก เพราะทรงมีช้างเผือกครอบครองจำนวนมาก ความทราบถึงพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์แห่งพม่า พระองค์จึงส่งราชทูตเชิญพระราชสาส์นมาขอพระราชทานช้างเผือก แต่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงให้เหตุผลเชิงปฏิเสธ ทำให้พระเจ้าบุเรงนองไม่พอพระทัย จึงถือสาเหตุนั้น ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ท้ายที่สุดแล้ว สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ต้องเสด็จไปเจรจากับพระเจ้าบุเรงนอง โดยได้มอบช้างเผือก พร้อมกับพระราเมศวร พระยาจักรี และพระสุนทรสงครามให้แก่พม่า เหตุการครั้งนี้เรียกว่า สงครามช้างเผือก 

 

Show more...
4 years ago
27 minutes 53 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 78: พระสยามเทวาธิราช กับ เทพีบริทาเนีย และพระป้ายรัชกาลที่ 4

การสร้างพระสยามเทวาธิราช ของรัชกาลที่ 4 มีต้นแบบของความเชื่อเกี่ยวกับการเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในราชอาณาจักรมาจาก เทพีบริทาเนีย (Britannia) แห่งราชวงศ์อังกฤษ แต่ในขณะนั้นการจะพูดถึงการเป็นศูนย์รวมจิตใจกับประชาชน คงเป็นเรื่องยากในการทำความเข้าใจ รัชกาลที่ 4 จึงได้นำความเชื่อเกี่ยวกับการปกปักษ์รักษาเมืองให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยได้ยกสถานะพระสยามเทวาธิราชเป็นเทพคุ้มครองปกป้องเมือง ที่อยู่เหนือเทพยดาหลักเมืองและเทพารักษ์ทั้ง 5 คือ เจ้าพ่อหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระกาฬไชยศรี

Show more...
4 years ago
27 minutes 25 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 77: ศาสนาพราหมณ์ - พุทธ กับการยกสถานะผีบ้านผีเมืองในสยาม

ก่อนที่ศาสนาจะเข้ามาเผยแผ่ในดินแดนอุษาคเนย์ ผีที่ได้รับความเคารพนับถือยังไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลักษณะของผีสาง เมื่อศาสนาและความเชื่่อเกี่ยวกับเทพเทวดาเข้ามามีบทบาทในพื้นที่แห่งนี้ ผีบ้านผีเมืองที่มีลักษณะ หรืออภินิหาญคล้ายคลึงกับเทพ จึงได้รับการยกสถานะขึ้นเป็นเทพเทวดาปกปักษ์รักษาคุ้มครองป้องกันภัย โดยได้จำแนก 4 - 5 ประเภท

Show more...
4 years ago
28 minutes 16 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 76: ผีบ้านผีเมืองในกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาตระกูลไต-ไท

ในกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาตระกูลไต - ไท ในดินแดนเอเชียอาคเนย์ ทางตอนใต้ของจีน และต่างตะวันออกของอินเดีย มีความเชื่อเกี่ยวกับผีบ้านผีเมืองไปในทิศทางเดียวกัน นั่นทำให้คนในกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์กันในลักษณะเครือญาติ

Show more...
4 years ago
27 minutes 3 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 75: กำเนิดความเชื่อเรื่องผีและวิญญาณ

ความเชื่อเกี่ยวกับผีและวิญญาณ เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์เริ่มอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อนเป็นสังคมที่ใหญ่ขึ้น เมื่อความตายเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดคำถามว่า “ตายแล้วไปไหน” จึงเกิดเป็นความเชื่อการมีตัวตนของโลกหน้า ส่งผลให้เกิดวิธีปฏิบัติด้วยการนำข้าวของเครื่องใช้หรือเครื่องประดับใส่ลงไปในหลุมศพ ซึ่งจริง ๆ แล้ว สาเหตุนั้นเกิดจากความกลัวและความไม่รู้

Show more...
4 years ago
26 minutes 48 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 74: ชาวต่างชาติกับการแย่งชิงราชสมบัติ

ปัญหาการเมืองการปกครองของสยามเกี่ยวกับการแย่งชิงราชสมบัติ ในประวัติศาสตร์พบว่า นอกจากการช่วยเหลือจากกลุ่มคนสยามด้วยกันแล้ว ยังมีชาวต่างชาติที่ร่วมกระทำการในแต่ละครั้งด้วย เช่น ชาวญี่ปุ่น แขก หรือแม้กระทั่งการได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ของจีน

Show more...
4 years ago
27 minutes 39 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 73: ชาวต่างชาติในอยุธยาพัฒนาเป็นเมืองท่านานาชาติ

เมื่อกรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรือง ชาวต่างชาติได้ติดต่อค้าขายมากขึ้น ทำให้กรุงศรีอยุธยากลายเป็นจุดหมายหนึ่งของชาวต่างชาติที่จะแวะเวียนเข้ามาทั้งการติดต่อส่วนราชการและการค้าขายจนได้ชื่อว่า เป็นเมืองท่านานาชาติอีกแห่งหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ในสมัยนั้น

Show more...
4 years ago
27 minutes 37 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 72: อยุธยายุคเริ่มติดต่อกับชาติตะวันตก

หลังจากการร่างสร้างเมืองของกรุงศรีอยุธยา ที่มีชัยภูมิติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การค้าขายไม่ได้ทำเพียงแค่ทางบกเท่านั้น ยังสามารถติดต่อผ่านทางน้ำได้อีกด้วย จึงทำให้เริ่มมีชาติตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายกันมากขึ้น

Show more...
4 years ago
27 minutes 9 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 71: ชาวต่างชาติในศตวรรษแรกของกรุงศรีอยุธยา

ชาวต่างชาติในช่วงแรกของกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นช่วงรอยต่อจากการปกครองของกรุงสุโขทัย ในขณะนั้นมีการติดต่อค้าขายกับต่างชาติผ่านเส้นทางบนบก เช่น พ่อค้าจากชาวจีน และบ้านเมืองในอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

Show more...
4 years ago
27 minutes 15 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 70: การกัลปนากับความสัมพันธ์เชิงการเมือง

แม้การกัลปนา จะเป็นเรื่องการทำบุญทำทานแต่ยังแฝงไปด้วยการเมืองอีกด้วย ดังเช่นการทำนุบำรุงหรือกัลปนาวัดบริเวณทะเลสาปสงขลา ด้วยการส่งทาสจากเมืองหลวงไปยังพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชและสงขลา ต่างหวาดหวั่นจนถึงขั้นนอนไม่หลับ เนื่องจากทาสที่ได้จากการกัลปนาจากพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานมา ถือเป็นสิทธิ์ขาดของเจ้าอาวาส ผู้อื่นจะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้ ที่สำคัญทาสเหล่านี้บางส่วนอาจส่งมาในฐานะผู้หาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวก่อนจะส่งข่าวกลับไปยังเมืองหลวง

Show more...
4 years ago
27 minutes 24 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 69: การกัลปนากับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

ในด้านเศรษฐกิจแล้ว การกัลปนาในที่วัดต่าง ๆ ถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากปริมาณในการเพาะปลูกที่มีอยู่จำนวนมาก นอกจากจะใช้เลี้ยงนักบวชและข้าทาสต่าง ๆ แล้ว ยังเหลือที่จะส่งเป็นส่วยเข้าไปในวังหลวง เพื่อเป็นเสบียงใช้ในยามศึกสงครามและนำไปค้าขายกับต่างเมืองได้อีก โดยทรัพย์ที่ได้จากการค้าขายจะมีส่วนหนึ่งที่ส่งกลับไปทำนุบำรุงศาสนสถานนั้น ๆ อีกด้วย

Show more...
4 years ago
27 minutes 22 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 68: การกัลปนาในรัฐบ้านเมืองคนไทยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18

ในพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา ถือเป็นการเริ่มต้นของรัฐบ้านเมืองที่เป็นคนไทย ธรรมเนียมปฏิบัติที่พระมหากษัตริย์ต้องปฏิบัติคือ การสร้างวัด ไม่ว่าจะสร้างภายในเขตเมืองหรือชายขอบของเมือง จะต้องมีการกัลปนาด้วย ตามปกติแล้ววัดที่สร้าง ณ จุดใด พื้นที่โดยรอบวัด พระมหากษัตริย์จะอุทิศให้ แต่หากภายในเมืองที่สร้างวัดจนแน่น จะใช้วิธีการให้ที่ดินที่อยู่นอกตัวเมืองแทน

Show more...
4 years ago
27 minutes 34 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 67: การกัลปนาในรัฐอาณาจักรโบราณเอเชียอาคเนย์

ในพื้นที่เอเชียอาคเนย์ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในยุคที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน และยังคงเป็นกลุ่มชนชาติพันธุ์ต่าง ๆ รัฐอาณาจักรเขมร เป็นตัวอย่างที่เห็นได้เด่นชัดในการทำกัลปนา โดยพระมหากษัตริย์อาณาจักรเขมรในขณะนั้นนิยมสร้างเทวสถานขึ้น เมื่อสร้าแล้วจะมีการกัลปนา ทั้งที่ดินโดยรอบ สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ และทาส เพื่อปฏิบัติรับใช้ภายในเทวสถานและทำไร่นาเพื่อบำรุงนักบวชและส่งกลับไปยังพระนคร แต่การสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ย่อมส่งผลให้เกิดปัญหาได้เช่นที่เมืองพุกาม (เมียนมา) มีการสร้างวัดและเจดีย์จำนวนมาก จนทำให้พระสงฆ์ร่ำรวยกว่าพระมหากษัตริย์ ทำให้ต้องออกพระราชบัญญัติริบทรัพย์คืนท้องพระคลัง เนื่องจากทรัพย์ในท้องพระคลังหมดเกลี้ยง

 

Show more...
4 years ago
27 minutes 23 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 66: การกัลปนา คืออะไร

การกัลปนา คือการทำมหาทานหรือการอุทิศที่พระมหากษัตริย์ เจ้าผู้ครองเมือง เจ้าขุนมูลนาย หรือผู้ที่มีทรัพย์ถวายแก่วัดหรือเทวสถาน เช่น ที่ดินโดยรอบหรือพื้นที่อื่น ๆ พืชพันธุ์ธัญญาหาร สัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งทาส ซึ่งกัลปนา เกิดขึ้นมาเป็นเวลาช้านานนับย้อนไปตั้งแต่สมัยอียิปต์ หรือดินแดนเมโสโปเตเมีย ในวัฒนธรรมอินเดียก็มีการทำกัลปนา เช่นกัน

Show more...
4 years ago
27 minutes 29 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 65: สงครามสยามกับเวียดนาม และ รัฐไทยกับบริบทในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

เป็นระยะเวลา 13 ปี กรณีพิพาทการเข้าปกครองกัมพูชาของสยามและเวียดนามในสมัยรัชกาลที่ 3 เกิดความสูญเสียอย่างมาก จึงมีการเจรจาตกลงแบ่งพื้นที่การปกครองกัมพูชาจึงยุติการทำสงคราม ต่อมาในรัชกาลที่ 6 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดในในทวีปยุโรปแต่สยามเลือกอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร จนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ประเทศไทย โดยเจรจาขอใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังพม่าและหัวเมืองในแหลมลายู อินโดนีเซีย สุดท้ายไทยเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้โดยอยู่ฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่น ในระหว่างนั้น ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอักครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และพรรคพวกได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทย เมื่อสิ้นสุดสงครามทำให้ไทยไม่อยู่ในข่ายประเทศแพ้สงครามและไม่ต้องเสียค่าปฏิกรณ์สงครามอีกด้วย โดยความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาที่ให้การรับรองไทย แม้อังกฤษและฝรั่งเศสไม่เห็นด้วย

Show more...
4 years ago
28 minutes 10 seconds

มองอดีต
มองอดีต EP. 64: สงครามกับรัฐมหาอำนาจในแผ่นดินอาคเนย์ (พม่า)

ธรรมเนียมปฏิบัติของเจ้าผู้ครองนครของรัฐต่าง ๆ อย่างหนึ่งคือ การแสดงแสนยานุภาพและอำนาจของผู้ครองนครนั้น ๆ ต่อเมืองอื่น ๆ โดยรอบ ซึ่งสยามกับพม่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีการทำศึกสงครามกันบ่อยครั้ง การเสียกรุงของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาทั้ง 2 ครั้งมีความแตกต่างกัน โดยการเสียกรุงครั้งที่ 1 นั้น แนวคิดของพม่า ไม่ต้องการทำลายบ้านเมือง เพียงแต่ย้ายเจ้าผู้ครองนครนั้น ๆ กลับไปพร้อมกับทัพพม่า แต่การเสียกรุงครั้งที่ 2 พม่าเริ่มมีแนวคิดการไม่รุกรานแต่หากเป็นปฏิปักษ์ต่อพม่าจะต้องทำลายเมืองนั้นให้สิ้น

 

Show more...
4 years ago
27 minutes 48 seconds

มองอดีต
มองอดีต