Home
Categories
EXPLORE
True Crime
Comedy
Business
Society & Culture
Health & Fitness
Sports
Technology
About Us
Contact Us
Copyright
© 2024 PodJoint
00:00 / 00:00
Podjoint Logo
US
Sign in

or

Don't have an account?
Sign up
Forgot password
https://is1-ssl.mzstatic.com/image/thumb/Podcasts125/v4/df/f9/cd/dff9cd3a-0414-0023-cdc6-f49a5b14f69c/mza_13289358140392262454.jpg/600x600bb.jpg
ฤๅ - Lue History
ฤๅ - Lue History
88 episodes
1 week ago
Talk 'True' History
Show more...
History
RSS
All content for ฤๅ - Lue History is the property of ฤๅ - Lue History and is served directly from their servers with no modification, redirects, or rehosting. The podcast is not affiliated with or endorsed by Podjoint in any way.
Talk 'True' History
Show more...
History
Episodes (20/88)
ฤๅ - Lue History
Lue Podcast Ep85 - จริงหรือไม่? สยามจงใจสร้างคุกทับ ‘เวียงแก้ว’

การเล่าประวัติศาสตร์นั้นหากเล่าโดยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้นแม้จะมีข้อกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่รับได้ เพราะความจริงคือสิ่งที่มิอาจบิดผันเป็นสิ่งอื่น ความจริงที่หลากหลายจึงเป็นความจริงที่ยังไม่พบข้อเท็จจริงเท่านั้น และในบางครั้งการเล่าประวัติศาสตร์ก็อาจมีความเชื่อและอุดมการณ์มาผสมอยู่จำนวนมากจนน่าเสียดายที่บางงานนั้นควรจะออกมาได้ดีกว่าที่เป็นอยู่


กระแสท้องถิ่นนิยมนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้และไม่ใช่สิ่งที่แย่ กระนั้นก็ตามการนิยมสิ่งใดมาก ก็สามารถก่อให้เกิดการใช้ประวัติศาสตร์โดยไม่ถูกต้องได้ (และไม่จำเป็นว่าต้องเป็นท้องถิ่นนิยมเท่านั้น)


ประเด็นหนึ่งก็คือการ “สร้างคุกทับเวียงแก้ว” ของเมืองเชียงใหม่ที่มักจะมีเรื่องเล่าในทำนองว่าสยามตั้งใจสร้างคุกทับเวียงแก้วไว้และเป็นการหยามคนท้องถิ่นอย่างมาก จนนักวิชาการบางท่านเรียกคุกว่าเป็น “ขึด” ของเชียงใหม่


ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ถึงพิราลัย เจ้าอุปราชอินทนนท์ซึ่งได้รับสถาปนาเป็นเจ้านครเชียงใหมที่ 7 (พระเจ้าอินทวิชยานนท์) ได้สร้างคุ้มหลวงแห่งใหม่ขึ้นที่ข่วงหลวงบริเวณหน้าศาลาสนามที่เป็นที่ตั้งตึกยุพราพในปัจจุบัน "เวียงแก้ว" ซึ่งเป็นที่พำนักของเจ้านครเชียงใหม่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2339 จึงสิ้นสภาพการเป็นคุ้มหลวงนับแต่ พ.ศ. 2413 และถูกปล่อยให้รกร้างจนถูกน้ำท่วมมานานกว่า 40 ปี จนกลายเป็น “หอพระแก้วร้าง” ก่อนที่จะมีการใช้ประโยชน์อย่างอื่นในภายหลัง

และนอกจากนี้เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ก็ไม่ได้ยกพื้นที่เวียงแก้วทั้งหมดให้เป็นที่ตั้งเรือนจำดังที่เจ้าดารารัศมีทรงเล่าประทานว่า “‘เวียงแก้ว’ เป็นเนื้อที่สี่เหลี่ยมจดถนนทุกทิศ เป็นมรดกของเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ เจ้านครเชียงใหม่ที่ 8 เจ้าอินทวโรรสฯ ได้ยกทูลเกล้าฯ ถวายให้เป็นเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ในด้านทิศใต้ ส่วนทางด้านทิศเหนือ เจ้าอินทวโรรสได้จัดทำเป็นสวนสัตว์ครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งได้ยกให้ข้าราชบริพาร คือ พระญาติๆ หลานเหลน และเหล่าเสนาของท่าน เช่น หมื่น ท้าว พญาทั้งหลายในสมัยนั้น”


สำหรับรายละเอียดและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในคลิปนี้ครับ

Show more...
1 year ago
7 minutes 28 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 84 - ‘เสือป่า’ กลุ่มผู้กล้าอาสาป้องกันชาติ

มีงานบางชิ้นได้กล่าวว่า "กองกำลังเสือป่า" ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นกองกำลังที่พระองค์ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกองกำลังส่วนพระองค์เนื่องจากความไม่ไว้วางใจและความแตกแยกระหว่างพระองค์กับกองทัพ ดังนั้นกองเสือป่าจึงเป็นเสมือนกองทัพซ้อนเข้าไปอีกทีทั่วประเทศในขณะนั้นจนทำให้เกิดความตึงเครียดในรัชสมัยขึ้น


การวิเคราะห์เช่นนี้เป็นการวิเคราะห์ที่น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะสาเหตุของการตั้งกองเสือป่าขึ้นนั้นไม่อาจมองขาดได้จากบริบทที่มีความต่อเนื่องก่อนหน้า โดยสิ่งที่รุนแรงที่สุดคือเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ที่มีบันทึกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น “เสวยไม่ได้ บรรทมไม่หลับ เป็นเวลานานนับเดือนนับปี”


เหตุการณ์ ร.ศ. 112 ได้ฝังอยู่ในพระราชหฤทัยของเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เพราะเมื่อถึงอังกฤษ พระองค์ตั้งพระราชหฤทัยที่จะศึกษาวิชาทหารเรือ หากแต่ในระหว่างการเตรียมพระองค์นั้นทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทำให้ต้องเปลี่ยนมาเรียนวิชาทหารบกและพลเรือนเพื่อเตรียมพระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ต่อไปและฝ่ากระแสอาณานิคมต่อจากพระราชบิดาของพระองค์


เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาและกลับมายังสยาม พระองค์ได้ยกร่าง ‘พระราชบัญญัติลักษณเกณฑ์ทหาร’ ขึ้นและจัดการวางกองกำลังใหม่ร่วมกับพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นนครไชยศรีสุรเดช ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ แต่ที่ปักษ์ใต้นั้นเนื่องจากรัฐบาลสยามได้ทำสัญญาลับกับอังกฤษเมื่อครั้งกู้เงินจาก Federal Malay States เพื่อทำทางรถไฟสายใต้โดยมีเงื่อนไขคือสยามจะไม่ส่งทหารลงไปประจำที่คาบสมุทรมลายูตั้งแต่บางสะพานน้อย ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงสุดชายพระราชอาณาเขตที่มณฑลปัตตานีทำให้ไม่มีการวางกำลังทหารเลยที่ปักษ์ใต้


วิธีหนึ่งที่พระองค์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหานี้คือการจัดตั้งกองเสือป่าขึ้น โดยผู้ที่เข้าเป็นสมาชิกนั้นต้องเสียเงินค่าสมัครและจัดหาเครื่องแบบเอง เสือป่าจึงเป็นกองอาสาสมัครที่มิได้ใช้เงินแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว นอกจากนี้ทรงกำหนดให้เสือป่ามีเครื่องแบบที่เห็นได้ชัดเจน จึงเป็นหลักประกันว่าหากเสือป่าถูกจับกุมระหว่างปฏิบัติงานจะต้องได้รับการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพที่กรุงเฮก ในขณะเดียวกันพระองค์ยังให้มีการตั้งเสือป่าขึ้นในมณฑลต่างๆ ทั่วพระราชอาณาจักรแม้ในคาบสมุทรมลายู แนว 25 กิโลเมตรริมฝั่งขวาแม่น้ำโขง และแนวชายแดนไทยกับอินโดจีนของฝรั่งเศสที่มีข้อตกลงว่าห้ามส่งทหารสยามเข้าไปประจำการ ให้มีแต่ตำรวจภูธรเท่านั้น แต่เมื่อเสือป่ามิใช่ทหาร การจัดกำลังเสือป่าในพื้นที่ที่มีข้อตกลงลับจึงไม่เป็นการขัดแย้งกับข้อตกลงนี้

Show more...
1 year ago
6 minutes 27 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 83 - ดีลลับกลับประเทศ ที่พลิกล่มสลายไปต่อหน้าของ ปรีดี พนมยงค์

มีข้อมูลและหลักฐานจำนวนมากมายยืนยันว่า แม้ทั้งป.และปรีดีจะขัดแย้งกันจริง หากแต่ในช่วงก่อนการรัฐประหาร 2500 ไม่นานนัก เขาทั้งสองต่างมีแผนการหรือ ‘ดีลลับ’ ที่จะกลับมาคืนดีกัน อันมีสาเหตุมาจากความผันผวนจากกระแสทางการเมืองของฝ่ายจอมพล ป. ที่ตกต่ำลง การนำปรีดีในฐานะตัวแทนของ ‘ฝ่ายก้าวหน้า’ (ตามทัศนะของพวกเขา) มาค้ำยันกับปีกจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ที่กำลังสูงเด่นขึ้นพร้อมด้วยการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นทางออกเดียวของจอมพล ป. ในสถานการณ์ชิงอำนาจดังกล่าว


จากเอกสารของสถานทูตอังกฤษในไทย ลงวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 ระบุความเคลื่อนไหวของฝ่ายจอมพล ป. ไว้ว่า เผ่า ศรียานนท์พยายามที่ให้ปรีดีกลับประเทศไทย และเขาอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนฝ่ายของปรีดีที่กลับมาอยู่ในไทยแล้ว (เช่น เฉียบ และชม) และที่สำคัญ เอกสารของอังกฤษระบุไว้ชัดเจนว่า “เผ่าคือสถาปนิกผู้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนการนี้” (แผนเอาปรีดีกลับไทยมาต่อสู้คดีสวรรคต) เอกสารฉบับนี้เขียนไว้อย่างไม่ปิดบังว่า เผ่าได้ริเริ่มกระบวนการใส่ร้ายต่อต้านพระบรมวงศานุวงศ์ (Royal family) ด้วยการจะทำให้ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็น “แพะรับบาป” (scapegoat) แทนปรีดีในกรณีสวรรคต


แต่อย่างไรก็ดี แผนการหรือ ‘ดีลลับ’ ระหว่าง 2 ป. คือ ป. พิบูลสงคราม และปรีดี ต้องถึงการฝันสลายลง หลังจากที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการรัฐประหารที่เรียกกันว่า ‘การรัฐประหาร 2500’ แล้วขับไล่จอมพลป. และเผ่าออกไปจากประเทศไทย อันเป็นการจบสิ้นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 ของจอมพลผู้มีฉายาว่า ‘พิบูลตลอดกาล’ อีกทั้งยังเป็นการ ‘ดับฝัน’ ของปรีดีที่จะกลับมายังประเทศไทยโดยดุษณี

Show more...
1 year ago
8 minutes 29 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 82 - อย่าเผลอเป็น Absolutist ‘รอยัลลิสต์หลงยุค’

‘ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข’ คือการอยู่ร่วมกันได้อย่างทันสมัย และไม่เป็นปัญหาระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากระบอบการปกครองนี้มีเสถียรภาพมากที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย อีกทั้งยังสามารถธำรงรักษาสถาบันหลักของชาติได้โดยที่ไม่ขัดกับคุณค่าประชาธิปไตยสากล


หลายครั้งที่มีคนบางกลุ่มมีความรู้สึกว่า ต้องการให้มีการเพิ่มพระราชอำนาจ (prerogative) ในการบริหารจัดการรัฐแก่พระมหากษัตริย์ แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นการทำร้าย ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ ทางอ้อม เพราะเท่ากับว่า แทนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของพระองค์ กลับต้องการให้พระองค์รับภาระเพิ่มมากขึ้นโดยมิจำเป็น และทรงจะรอดพ้นจากข้อครหามิได้หากทรงบริหารผิดพลาดหรือโดนใส่ร้ายมา


ประเทศไทยนั้นหมดเวลาของ ‘รอยัลลิสต์’ ที่เป็น ‘ฝ่ายนิยมระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์’ แล้ว สำหรับใครก็ตามที่มีความจงรักภักดี และหวังดีต่อสถาบันฯ ควรสนับสนุน ‘รอยัลลิสต์’ ในรูปแบบ ‘วิก’ (Whigs) ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่สนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เหมาะสมต่อประเพณีการปกครอง มิใช่เรียกร้องให้ทวนเข็มนาฬิกากลับไปสู่ระบอบเก่าที่ทั้งโลกเห็นว่าเป็นรูปแบบที่ล้าสมัยไปแล้ว

#LueHistory #รอยัลลิสต์

Show more...
2 years ago
7 minutes 32 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 81 - จาก ‘สมเด็จย่า’ ถึง ‘พระราชินีสุทิดา’ จากสามัญชน สู่ไอดอลของคนรุ่นใหม่

ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์จักรี บุคคลผู้ได้รับการโปรดเกล้าฯ จากสามัญชนขึ้นเป็นพระบรมศานุวงศ์ชั้นสูงบุคคลแรกคือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ ‘สมเด็จย่า’ ของคนไทย เด็กหญิงจากตระกูลช่างทอง โดยมีพระนามเดิมว่า ‘สังวาลย์’ สู่การเป็นพระมารดาของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของไทยถึง 2 พระองค์


สมเด็จย่าทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกาย และทรงงานเพื่อคนไทยมาโดยตลอด แม้จะมีพระชนมายุมากแล้วก็ตาม แต่พระองค์ยังเสด็จไปยังท้องที่ทุรกันดารต่างๆ เพื่อฟื้นฟูผืนป่าและพลิกฟื้นโอกาสให้คนในพื้นที่เหล่านั้นได้มีชีวิตที่ดีขึ้น จนชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารต่างเรียกพระองค์ว่า “แม่ฟ้าหลวง”


ผ่านมาหลายทศวรรษ ประวัติศาสตร์ดั่งเทพนิยายก็ได้เริ่มต้นบทบันทึกอีกครั้ง…


สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี มีพระนามเดิมว่า ‘สุทิดา ติดใจ’ คือสามัญชนคนที่สอง ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ขึ้นเป็นพระบรมศานุวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์จักรี หลังจากที่ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินี


พระราชินีผู้มาจากสามัญชน หากแต่มีทั้งความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และมีพระจริยวัตรอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสง่างดงามบนความทันสมัย กระทั่งทรงกลายเป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่บางกลุ่ม และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของเยาวชนไทยยุคใหม่อีกด้วย


เรื่องราวดั่งเทพนิยายของทั้งสองพระองค์เป็นอย่างไร ติดตามได้ในคลิปนี้ครับ

#LueHistory #สมเด็จย่า

Show more...
2 years ago
9 minutes 42 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 80 - ย้อนมองประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 2516 บทบาทของในหลวง ร.9 ในการยุติความขัดแย้งของคนไทย

14 ตุลาคม 2516 วันแห่งปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย จากการรวมตัวกันของนิสิตนักศึกษา อาชีวะ และประชาชนจากทุกภาคส่วน เพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการของ จอมพลถนอม กิตติขจร, จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยึดครองอำนาจบริหารที่ส่งไม้ต่อกันมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์


การชุมนุมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เริ่มขึ้นในวันนที่ 9 ตุลาคม 2516 นําโดยสองนักศึกษาชายหญิง เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และเสาวนีย์ ลิมมานนท์ มีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างเผ็ดร้อน โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงนักเรียนมัธยมและนักเรียนอาชีวะ ทั้งจากวิทยาลัยและสถาบันในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมาเข้าร่วมสมทบอย่างล้นหลาม


สถานการณ์ชุมนุมเริ่มถึงจุดตึงเครียดในวันที่ 12 ตุลาคม เมื่อศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ยื่นคําขาดว่าให้รัฐบาลปล่อยตัวอาจารย์และนักศึกษาจำนวน 13 คน ที่ถูกจับกุมไป


13 ตุลาคม การเจรจาระหว่างตัวแทนของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาฯ กับจอมพลประภาส จารุเสถียร ได้เกิดขึ้นและนำไปสู่การยอมรับข้อเสนอ โดยรัฐบาลยอมปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง 13 คน และจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ในปีต่อไป ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมยุติการชุมนุมในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 ตุลาคม


แต่ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชวิถี


จากจุดปะทะเล็ก ๆ นี้เอง เหตุการณ์ก็ได้บานปลายลุกลามไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน มีการใช้กําลังทหารและตํารวจเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรง ในขณะที่นักเรียนนิสิต นักศึกษา และประชาชนก็ตอบโต้ด้วยการก่อความวุ่นวาย บุกเข้ายึดและทําลายสถานที่หลายแห่ง เช่น กรมประชาสัมพันธ์, สถานีตํารวจ ฯลฯ จนกระทั่งมีการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงในวันที่ 14 ตุลาคม โดยกำลังตำรวจและทหาร จนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและบาดเจ็บจำนวนมาก


19.15 น. ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดํารัสทางวิทยุและโทรทัศน์ ทรงขอให้ทุกฝ่ายระงับเหตุแห่งความรุนแรง และทรงแต่งตั้งศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นนายกรัฐมนตรีแทน จนกระทั่งเหตุการณ์ได้คลี่คลายลง โดยผู้นำคณาธิปไตยกลุ่มจอมพลถนอมได้ลี้ภัยออกนอกประเทศ และมีการประกาศเตรียมใช้รัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือน ซึ่งถือเป็นการยุติความขัดแย้งต่าง ๆ ลง

#LueHistory #ในหลวงรัชกาลที่9 #14ตุลา

Show more...
2 years ago
10 minutes 54 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 79 - คณะราษฎร หมายฆ่าพระบรมวงศานุวงศ์ ด้วยแผนถอดรางรถไฟ

เหตุการณ์สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ควรจะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เพื่อจะให้ชนรุ่นหลังได้รับทราบว่า ครั้งหนึ่งฝ่ายรัฐบาลคณะราษฎรเคยมีความคิดรุนแรงถึงขนาดคิดที่จะ ‘ฆ่าพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยแผนถอดรางรถไฟให้ตกรถตายทั้งขบวน’


กรณีนี้อาจเคยมีคนอ่านเจอในหนังสือ ‘สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น’ ของ หม่อมเจ้าพูนพิสมัย ดิศกุล (พระธิดาในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ) ซึ่งถูกนักวิชาการรุ่นหลังจำนวนหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าถูกเขียนขึ้นจากมุมมองของ ‘ฝ่ายเจ้า’ ที่ ‘เชียร์’ ฝ่ายกบฏ


อย่างไรก็ดี หนังสือเล่มดังกล่าวหาใช่หลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่ยืนยันถึงการมีอยู่ของเหตุการณ์ ‘ฆ่าพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยแผนถอดรางรถไฟให้ตกรถตายทั้งขบวน’ เพราะไม่นานมานี้ ได้มีการค้นพบหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ถูกพิมพ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2489 ซึ่งคุณเปรมจิต วัชรางกูร ข้าราชการราชสำนัก ได้บันทึกไว้ในหนังสือ ‘พระปกเกล้าฯ กับชาติไทย’ (2489) ที่เขียนถึงเรื่องราวดังกล่าวเช่นกัน


เพื่อเป็นการยืนยันการมีอยู่จริงของแผนการอัปยศในครั้งนั้น ทีมงาน ฤา จึงขอนำรายละเอียดของเรื่องราวดังกล่าวมาเล่าให้ฟังในคลิปนี้ครับ

#LueHistory #แผนฆ่าพระบรมวงศานุวงศ์

Show more...
2 years ago
9 minutes 20 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 78 - โครงการพระราชดำริ ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ

โฆษณาชวนเชื่อ มีนิยามหลายอย่าง แต่พูดให้ถึงที่สุดแล้ว โฆษณาชวนเชื่อ ก็คือการพยายามทำให้คน 'เชื่อ' ในสิ่งที่อาจจะไม่เป็นจริงก็ได้


ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา หลายคนพยายามกล่าวหาว่าโครงการต่าง ๆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็เป็นหนึ่งในโฆษณาชวนเชื่อเพื่ออวยเจ้า ทั้งที่โครงการต่าง ๆ เหล่านั้นสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยได้จริง


โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (รวมไปถึงโครงการประเภทอื่นๆ) เป็นโครงการที่มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านโครงสร้างที่จับต้องได้ต่างๆ โดยมีหน่วยงานรัฐเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน โดยโครงการต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้นมีจุดกำเนิดที่เกิดขึ้นในช่วงยุคเหลื่อมกับสงครามเย็นพอดี แต่การเกิดขึ้นของแนวคิดการพัฒนาในช่วงสงครามเย็นกับการสร้างโครงการเพื่อหนุนให้เกิดโฆษณาชวนเชื่อนั้นเป็นคนละเรื่องกัน


การทำโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ในยุคที่โครงการเกิดขึ้นนั้น ไม่มีผู้มีอำนาจหรือประชาชนตั้งคำถามว่าทำไมต้องทำโครงการเหล่านี้ หรือโครงการเหล่านี้จะไปเกื้อหนุนพระมหากษัตริย์อย่างไร เพราะปัจจัยในขณะนั้นมีเพียงแค่ว่า จะอยู่รอดอย่างไรท่ามกลางความตึงเครียดจากกระแสการเมืองระหว่างประเทศ


อย่างไรก็ดี นักวิชาการในยุคหลังได้ย้อนกลับไปตั้งคำถามถึงโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ โดยประเด็นที่ผุดขึ้นมาประเด็นหนึ่งนั่นก็คือ โครงการเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อให้เกิดความนิยมในพระมหากษัตริย์ผ่านแผนจิตวิทยาของสหรัฐอเมริกาเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ หรือนักวิชาการบางท่านได้ไปไกลถึงขนาดว่า เป็นเรื่องการสถาปนาพระราชอำนาจนำ (Hegemony) ตามแนวคิดของนักคิดอิตาเลียน Antonio Gramsci


การตั้งคำถามดังกล่าวถือว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้เมื่อลองมาดูในรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ ก็จะพบว่า จุดมุ่งหมายหรือกระบวนการระหว่างทาง ไม่ได้สอดคล้องกับคำถามที่นักวิชาการเหล่านั้นตั้งขึ้นเลย และทำให้เกิดคำถามอีกคำถามว่า “ถ้าหากต้องการทำโฆษณาชวนเชื่อ โครงการเหล่านั้นสามารถทำส่ง ๆ ไปก็ได้มิใช่หรือ? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือโครงการเหล่านี้กลับมีประโยชน์ต่อประชาชนจริง”

#LueHistory #โครงการพระราชดำริ

Show more...
2 years ago
10 minutes 53 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 77 - กบฏเงี้ยวไม่เกี่ยวกับอุดมการปลดแอกชาวแพร่จากสยาม

กับกรณีที่มีบางคนบางกลุ่มออกมาอ้างตัวว่าเป็นลูกหลานของ “กบฏเงี้ยวเมืองแพร่” กลุ่มกบฏที่ก่อเหตุความรุนแรงขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกันกับเหตุการณ์กบฏในภูมิภาคต่างๆ ทั้งกบฏผีบุญ และกบฏเจ็ดหัวเมืองภาคใต้

โดยกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกหลานกบฏเงี้ยวนั้น ได้นำเสนอข้อมูลทำนองว่า การลุกขึ้นก่อกบฏโดยกลุ่มเงี้ยว คือการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาวแพร่จากการกดขี่ของรัฐบาลกรุงเทพฯ ในขณะนั้น

วันนี้ ฤๅ จึงขอนำเสนอประวัติศาสตร์นอกตำรา ซึ่งเป็นข้อมูลอีกด้านจากผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นวงศ์วรญาติของเจ้าเมืองแพร่ เพื่อให้เราได้รับรู้อีกมุมมองเกี่ยวกับกบฏเงี้ยวในสมัยรัชกาลที่ 5

โดยจะเห็นได้ว่า กลุ่มโจรเงี้ยวซึ่งไม่ใช่คนสยามและอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ได้เข้ามาทำมาค้าขายตามแนวชายแดนสยาม และต่อมาได้ลุกฮือขึ้นก่อเหตุความรุนแรงจากการที่พวกเขาเสียผลประโยชน์ จากการที่ทางสยามปฏิรูประบบต่างๆ ของบ้านเมืองให้เป็นอารยะ ประกอบกับการได้รับการสนันสนุนจากอังกฤษเจ้าอาณานิคมที่จ้องจะเข้ามาแทรกแซงสยามในขณะนั้นด้วย

ซึ่งจะเห็นได้ว่า การก่อเหตุของกบฏเงี้ยว ไม่เกี่ยวใดๆ กับการปลดปล่อยชาวแพร่จากการกดขี่ของรัฐบาลกรุงเทพฯ ตามที่มีคนบางกลุ่มกล่าวอ้างเลย

และจากข้อมูลที่เราเคยรับรู้กันมาคือ การที่เจ้าพิริยเทพวงษ์เจ้าหลวงเมืองแพร่ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏเงี้ยวนั้น เรื่องราวที่ ฤๅ นำมาพูดคุยในวันนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นส่วนขยายของข้อมูลข้างต้น ซึ่งทำให้เห็นร่องรอยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเมืองแพร่และทางกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาที่โจรเงี้ยวก่อกบฏ และเหตุใดเจ้าหลวงเมืองแพร่จึงตัดสินใจทำเช่นนั้น

เรื่องราวทั้งหมดอยู่ใน Podcast ของ Lue History ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบทใหม่ที่จะเปิดมุมมองอีกด้านของเหตุการณ์ “กบฏเงี้ยวเมืองแพร่” ให้ทุกคนได้รับรู้กัน ขอเชิญรับฟังได้ที่นี่

#LueHistory #กบฏเงี้ยว #ชาวแพร่

Show more...
2 years ago
19 minutes 19 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 76 - ‘พระพรหมช่วยอำนวยให้ชื่นฉ่ำ’ ความหมายอันลึกซึ้งในบทเพลงพระราชนิพนธ์

“เมื่อข้าพเจ้าเอ่ยปากและตั้งใจจะแนะนำบางอย่าง พวกเขาก็พากันบอกว่า ‘ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทยังไม่ทรงทราบเรื่องราวใดๆ’ ข้าพเจ้าจึงปิดปาก ความจริงข้าพเจ้ารู้ แต่เมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าพูด ข้าพเจ้าก็ไม่พูด” บทสัมภาษณ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ New York Times


หลังจากนั้น สิ่งที่พระองค์ทรงเลือกที่จะทำ โดยไม่ก่อให้เกิดแรงเสียดทานทางการเมืองและความขัดแย้งแบบที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 คือ การเชื่อมต่อกับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าประชาชนได้ผ่านช่วงหดหู่และการไร้ความหวังจากสภาวะของสงครามมาแล้ว สิ่งนั้นคือ "บทเพลงพระราชนิพนธ์"


บทเพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์ออกมานั้นคือเพลง “แสงเทียน” เมื่อ พ.ศ. 2489 โดยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์คำร้องภาษาไทย เพลงแสงเทียนนั้นแม้จะมีเนื้อร้องที่มีความเศร้าหมอง แต่ก็ยังมีประกายของความหวัง เช่น “ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่ เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า”


บทเพลงพระราชนิพนธ์ในช่วงขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 9 นั้น ตั้งต้นด้วยความรักและความปรารถนาดีที่เป็นสื่อกลางระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน และพระองค์ยังได้พระราชนิพนธ์บทเพลงขยายออกไปอีกมาก เช่น บทเพลงประจำสถาบันต่างๆ ซึ่งทำให้คนร้องเกิดความผูกพันและความรักมากขึ้น

#LueHistory #เพลงพระราชนิพนธ์

Show more...
2 years ago
7 minutes

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 75 - "ปาตานี" วาทกรรมที่เพิ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยพวกแบ่งแยกดินแดน

ก่อนหน้านี้งานวิชาการหรือไม่ใช่วิชาการในภาคภาษาไทย ที่มีเนื้อหาสารัตถะเกี่ยวกับปัตตานี มักใช้คำว่า ‘ปัตตานี’ เรียกแทนหน่วยการวิเคราะห์ในอักษรไทยที่มาจากคำว่า ‘Patani’ ในอักษรรูมีแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะหมายถึงอาณาจักรปัตตานี (Kingdom of Patani) คนปัตตานี หรือประวัติศาสตร์ปัตตานี แม้แต่งานวิชาการด้านประวัติศาสตร์นิพนธ์ของนักชาตินิยมนายูที่ปรากฏขึ้นในภาคภาษาไทยฉบับแรก คือ “ประวัติศาสตร์ปัตตานี อดีตและปัจจุบัน” (พ.ศ. 2519) เขียนโดยอับดุลเลาะห์ ลออแมน (อ.บางนรา) ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเสนีย์ มะดากะกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักการเมืองชาวนราธิวาสในฐานะสหายที่ร่วมท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลเพื่อประกอบการเขียนหนังสือเล่มดังกล่าวหลังเหตุการณ์การประท้วงใหญ่หน้ามัสยิดปัตตานี พ.ศ. 2518


ปัจจุบันมีความพยายามในการสร้างอัตลักษณ์ ‘ปาตานี’ ให้แตกต่าง ตรงข้าม และมีความรู้สึกทางประวัติศาสตร์เป็นปฏิปักษ์กับคำว่า ‘ปัตตานี’ ที่ใช้ในเอกสารไทยทั่วไป โดยคำว่า "ปาตานี" คือวาทกรรมที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ ผ่านผลงานทางวิชาการเล่มใหม่ของอับดุลเลาะห์กับอารีฟิน บินจิ (จำรูญ เด่นอุดม) คือ ‘ลังกาสุกะ – ปาตานี ดารุสลาม’ (พ.ศ. 2540)


หลังจากนั้นวาทกรรมนี้ก็ได้ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล โดยที่นักชาตินิยมนายูผู้คิดค้นอาจไม่ได้ตั้งใจ นั่นก็คือ ในปัจจุบัน ขบวนการแบ่งแยกดินแดนโดยเฉพาะกลุ่ม BRN ได้อ้าแขนรับวาทกรรม ‘ปาตานี’ ดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้น การเลิกใช้คำว่า ‘ปาตานี’ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราคนไทยจะต้องรณรงค์ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้


#ปาตานีไม่มีอยู่จริง #ปาตานี #วาทกรรมที่เพิ่งสร้าง

Show more...
2 years ago
8 minutes 15 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 74 - ทำไมมาตราที่ 3 ของรัฐธรรมนูญ จึงระบุให้พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน

ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา เราจะพบกับข้อความในหมวดที่ 1 ในมาตราใดมาตราหนึ่งว่า


“อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ” (ข้อความจากมาตรา 3 รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560) ซึ่งมาตราที่ระบุข้อความดังกล่าวนั้นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ประกอบให้สถาบันการเมืองต่าง ๆ สามารถใช้อำนาจได้โดยมีกลไกที่ชัดเจน และทำให้รัฐสามารถทำงานได้เพื่อประโยชน์สาธารณะ


อย่างไรก็ดี การระบุข้อความว่า “ทรงใช้อำนาจนั้น” เอาไว้ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือตีความจนเกินเลยไปได้ ดังนั้น ฤา จึงเห็นสมควรในการนำเสนอถึงประเด็นนี้ว่า


หลัง พ.ศ. 2475 เมื่อประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว พระมหากษัตริย์จะไม่ทรงสามารถบริหารแผ่นดินได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป เพราะพระมหากษัตริย์ได้ทรงสละอำนาจอธิปไตยของตนเองให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นประชาชนจึงเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตย แต่เนื่องจากการมีพระมหากษัตริย์อยู่ในระบอบประชาธิปไตยและเป็นการถวายเกียรติยศให้แก่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในอดีต การระบุให้ทรง “ใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ” จึงหมายถึง ประชาชนให้พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนแทน

#LueHistory #รัฐธรรมนูญ

Show more...
2 years ago
5 minutes 38 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 73 - ความทุ่มเทอันยิ่งใหญ่ของ ‘สมเด็จอาจารย์’ ที่ทั่วโลกต่างให้การยกย่อง

ในสมัยก่อนย้อนไป 40 กว่าปีที่แล้ว หลายพื้นที่ในประเทศไทยยังมีปัญหาขาดแคลน “ครู” ที่จะมอบวิชาความรู้ให้แก่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่จะเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของชาติบ้านเมือง ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียน/มหาวิทยาลัยในพื้นที่ห่างไกล แถมยังเป็นการสอนในวิชาเฉพาะด้านอีก เงื่อนไขเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้ปัญหาขาดแคลนครูขยายวงกว้างมากขึ้น


ปี พ.ศ. 2523 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กำลังขาดแคลนอาจารย์สอนวิชาภาษาฝรั่งเศส จนทำให้ ผศ.ดร.อุบลวรรณ โชติวิสิทธิ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตัดสินใจเขียนจดหมายกราบทูลสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ


หลังจากนั้นหนึ่งเดือนต่อมา ก็มีจดหมายตอบกลับให้อาจารย์อุบลวรรณเข้าเฝ้าฯ ที่วังสระปทุม และในวันที่เข้าเฝ้าฯ นั้น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้รับสั่งกับอาจารย์อุบลวรรณว่า “ฉันหาครูสอนให้ไม่ได้นะ แต่ฉันจะไปสอน”


หลังจากนั้นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก็ทรงทุ่มเทประกอบพระกรณียกิจนานัปการให้กับงานในด้านต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะด้านการศึกษา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 องค์การยูเนสโกได้ประกาศยกย่อง ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก พร้อมกับพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ทั้งด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ด้านสังคมสงเคราะห์ รวมถึงการแพทย์ การสาธารณสุข และด้านอื่นๆ ทั้งยังทรงยึดมั่นในคุณค่าของมนุษย์และศักยภาพของการพัฒนา เพื่อนำมาซึ่งประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยและสังคมโลก

#LueHistory #ครู # สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ

Show more...
2 years ago
7 minutes 43 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 72 - ข้อเท็จจริงกรณี พ.ร.บ. เงินกู้สองล้านล้าน แผนพัฒนาที่เอื้อประโยชน์ต่อคนบางกลุ่ม

พ.ร.บ. เงินกู้สองล้านล้าน ที่ฝ่ายบริหารสามารถกู้เงินเอง จัดสรรงบเอง อนุมัติเงินเอง สั่งจ่ายเงินเอง และเปลี่ยนรายการได้เอง พ.ร.บ. นี้จึงขัดกับรัฐธรรมนูญอย่างโจ่งแจ้งและทำให้กลไกการตรวจสอบทำงานยากลำบาก


ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ถูกตีตกโดยศาลรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในยุคนั้นว่า "ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ขัดขวางความเจริญ"


ข้อเท็จจริงกรณี พ.ร.บ. เงินกู้สองล้านล้าน เป็นอย่างไร สามารถติดตามฟังได้ในคลิปนี้ครับ

#LueHistory #พรบเงินกู้

Show more...
2 years ago
5 minutes 22 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 71 - จะเรียกร้องประชาธิปไตย หรือ อนาธิปไตย เอาให้แน่

อนาธิปไตย (Anarchism) ลัทธิที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และโดยเฉพาะพวกคอมมิวนิสต์นั้น เกลียดชังพวกอนาธิปไตยเป็นที่สุด


แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่การชุมนุมทางการเมืองในหลาย ๆ ครั้ง โดยเฉพาะการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประประเทศไทย กลับมาคนนำเอาสัญลักษณ์นี้มาเกี่ยวข้อง เช่น มีป้ายผ้า มีการชูธง หรือการพ่นสีสัญลักษณ์ Anarchism ตามที่ต่าง ๆ


ทำให้เราเห็นได้ว่า กลุ่มคนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเหล่านี้ เป็นพวกที่อ่อนด้อยความรู้ทางการเมืองพื้นฐาน เพราะหากใครก็ตามประกาศตนเองว่าเป็นผู้นิยมประชาธิปไตยแล้ว (อย่างที่คนกลุ่มนี้มักอ้างกันตลอด) ย่อมไม่สามารถอนุญาตให้มีแนวคิดแบบอนาธิปไตยแฝงเร้นมาได้ เพราะคำตอบทางวิชาการก็เป็นที่แน่ชัดว่า อนาธิปไตย คือ ศัตรูตัวสำคัญของประชาธิปไตย ยิ่งกว่าระบอบเผด็จการเสียอีก


ความเป็นมาของสัญลักษณ์นี้เป็นอย่างไร เรามาทำความเข้าใจไปด้วยกันครับ

#LueHistory #ประชาธิปไตย #อนาธิปไตย #คอมมิวนิสต์

Show more...
2 years ago
6 minutes 45 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 70 - เมื่อหนังสือ ขุนศึก ศักดินาฯ ด้อยค่ารัฐธรรมนูญด้วยอคติ กล่าวหารัฐธรรมนูญ 2492 ว่าเป็นฉบับรอยัลลิสต์

ปัจจุบันได้มีงานเชิงวิชาการหลายชิ้นที่ศึกษาการเมืองไทยและรัฐธรรมนูญด้วยวัตถุประสงค์ของการศึกษาที่แตกต่างกันไป แต่มีงานชิ้นหนึ่งที่เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และอาจจะเป็นงานชิ้นที่จุดประกายการถกเถียงรัฐธรรมนูญฉบับ 2492 คือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ของอาจารย์ณัฐพล ใจจริง


เพราะเนื้อหามีการกล่าวถึงการใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ที่ถูกระบุว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับรอยัลลิสต์ หรือเป็นรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการใช้อำนาจทางการเมืองของกลุ่มกษัตริย์นิยม และชี้นำให้เห็นว่า กลุ่มรอยัลลิสต์และสถาบันพระมหากษัตริย์ พยายามเกี่ยวข้องทางการเมืองอย่างมาก และมีบทบาทในการเตะตัดขาระบอบประชาธิปไตย


แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2489 ที่เปิดโอกาสให้เจ้ามาเล่นการเมืองอย่างชัดเจน กลับไม่ถูกเรียกว่าเป็นฉบับรอยัลลิสต์เพียงเพราะผู้ออกแบบชื่อ ปรีดี อย่างนั้นหรือ?

#LueHistory #ขุนศึกศักดินา #รัฐธรรมนูญ

Show more...
2 years ago
7 minutes 35 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 69 - การหมกเม็ดและพูดไม่หมดของนักวิชาการบางคน เพื่อกล่าวหาในหลวงว่าแทรกแซงรัฐธรรมนูญ

เพราะการกล่าวหามันง่ายกว่าการหาข้อเท็จจริงมาอธิบาย จึงทำให้ข่าวลือ ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ ต่าง ๆ กระจายไปทั่วบนโซเชียลมีเดีย


ประเด็นที่เคยมีนักวิชาการบางคนกล่าวหาเรื่องการมีพระราชกระแสให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ของในหลวงคือการแทรกแทรงทางการเมือง ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครออกมาอธิบายข้อเท็จจริงอีกด้านว่าเป็นอย่างไร


รัฐธรรมนูญนั้นมีเป้าหมายสำคัญ คือการจัดการสถาบันทางการเมืองและการคุ้มครองประชาชนในประเทศ ดังนั้นสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญนั้นจึงเป็นการวางอำนาจทั้งทางนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ให้ได้ดุลเพื่อคุ้มครองประชาชน ซึ่งหมายถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพอันเป็นสาระสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง หรือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการคุ้มครองประชาชนจากรัฐ


ดังนั้นประเด็นเรื่องสิทธิเสรีภาพจึงเป็นสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญที่หากมีการแก้ไขใดๆ ที่กระทบกับสาระสำคัญนี้จะต้องมีการทำประชามติ


เมื่อดูประเด็นที่พระราชกระแสให้แก้ไขนั้นพบว่า เนื้อหาที่รัชกาลที่ 10 ทรงให้มีการแก้ไขนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่กระทบต่อชีวิตของประชาชน และไม่ส่งผลประทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินแต่อย่างใด ดังนั้นการแก้ไขส่วนนี้จึงเป็นพระราชอำนาจทั่วไปของพระองค์จึงไม่จำเป็นต้องมีการลงประชามติอีกครั้ง และการลงประชามติอีกครั้งจะยิ่งทำให้ล่าช้าและเสียงบประมาณจำนวนมากอีกด้วย


และที่สำคัญคือ นี่ไม่ใช่การแทรกแทรงทางการเมือง ไม่ใช่ “ราชอาณาจักรกึ่งราชาธิปไตย" อย่างที่นักวิชาการเหล่านั้นกล่าวหาเลยแม้แต่นิดเดียว

#LueHistory #แทรกแซงรัฐธรรมนูญ

Show more...
2 years ago
5 minutes 22 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ EP 68 - ผ่าวาทกรรมลวงโลก "เหตุการณ์สงบ งบไม่มา"

นับตั้งแต่เหตุการณ์ความรุนแรงระลอกใหม่ประทุขึ้นเมื่อปี 2547 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ (เกือบ 20 ปีแล้ว) มีคนไทยทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา และทุกช่วงอายุ ต้องมาสังเวยชีวิตรวมกันไม่ต่ำกว่า 7,000 คน เพื่อรับใช้อุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนจากปฏิบัติการก่อความไม่สงบของขบวนการ BRN


แต่ก็มี “ผู้รู้” หรือ “ผู้สันทัดกรณี” ชอบออกมาพูดว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุร้ายส่วนใหญ่ คือ “เจ้าหน้าที่รัฐ” ตามวลีฮิตที่เล่ากันปากต่อปาก (แต่ไม่มีการศึกษาหรือมีหลักฐานเชิงประจักษ์) ว่า “เหตุการณ์สงบงบไม่มา”


วันนี้เราจะมาเล่า ข้อมูล “เชิงลึก” ให้ฟังว่า กลุ่มขบวนการณ์ก่อความไม่สงบคือใคร เพื่อที่เราจะได้รู้จัก “ศัตรู” ของเราให้มากขึ้น เพราะในขณะที่คนไทยหลงระเริงว่าขบวนการก่อการร้ายฯ ไม่มีจริงนั้น เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า ในเวลานี้ “ศัตรูของเรา” ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองไปขนาดไหนแล้ว

#LueHistory #BRN

Show more...
2 years ago
9 minutes 48 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ 3/3 - คดีตัวอย่างที่ย้ำชัดว่า ม.112 เอามาใช้กลั่นแกล้งกันไม่ได้

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่กลุ่มผู้เรียกร้องยกเลิกกฎหมาย มาตรา 112 เอามาพูดถึงกันตลอดคือ มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งกันได้


วันนี้ทีมงาน ฤๅ ขอนำตัวอย่างคดีมาตรา 112 ที่สำคัญๆ มาเล่าให้ฟังเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่า


การที่มีคนละเมิดกฎหมายแล้วโดนดำเนินคดี แล้วอ้างว่าถูกคนอื่นใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง และโยนความผิดไปว่ากฎหมายมีปัญหา และออกมาเรียกร้องยกเลิกกฎหมายที่ตนเองไม่เห็นด้วย


ทำไมจึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น

#LueHistory #ม112

Show more...
2 years ago
9 minutes 41 seconds

ฤๅ - Lue History
เรื่องของฤๅ 2/3 - เปิดพงศาวดารย้อนจุดกำเนิดอาณาจักรปัตตานี และการขึ้นตรงต่อสยามมาแต่ครั้งอดีต

จากหลักฐานฝั่งไทยมีการบันทึกที่ชี้ให้เห็นว่า แต่เดิมอาณาจักรสุโขทัยมีอาณาเขตทางใต้ถึงปลายคาบสมุทรมลายู ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานจากข้อมูล และตีความจากศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง


แต่ข้อสันนิษฐานนี้ ก็อาจตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดชาตินิยมสยาม ซึ่งเป็นยุคที่เราต้องเจอกับการล่าอาณานิคมจากประเทศมหาอำนาจ ดังนั้นจึงต้องมีการอ้างถึงเขตแดนในอดีต เพื่ออ้างสิทธิ์ในการปกครองในขณะนั้น


และเมื่อมีการค้นพบหลักฐานอื่นๆ มากขึ้นในปัจจุบัน ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า กรมพระยาดำรงฯ ไม่ได้ทรงทึกทักไปเอง

#LueHistory #ปัตตานี

Show more...
2 years ago
7 minutes 16 seconds

ฤๅ - Lue History
Talk 'True' History