Home
Categories
EXPLORE
True Crime
Comedy
Society & Culture
Business
News
Sports
TV & Film
About Us
Contact Us
Copyright
© 2024 PodJoint
00:00 / 00:00
Sign in

or

Don't have an account?
Sign up
Forgot password
https://is1-ssl.mzstatic.com/image/thumb/Podcasts113/v4/0b/f5/7c/0bf57c0e-5b3c-9e41-0f0d-451164d0ae6e/mza_15459446231294817396.jpg/600x600bb.jpg
นิทานชาดก
072
205 episodes
5 days ago
นิทานชาดก ได้รับการสนับสนุนโดย คุณบุญชัย เบญจรงคกุล คนในโลกนี้อยากทำดี อยากเป็นคนดีทุกคน แต่เพราะไม่มีต้นแบบดีๆ เป็นแบบอย่าง จึงต่างคิดหามาตรฐานทำความดี ต่างๆ กันไป ที่พอมีปัญญาก็ทำดีถูกวิธีได้สั่งสมความดีเป็นบารมี ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นคน แต่ที่มีปัญญาน้อย เห็นผิดเป็นชอบก็หลงทาง ขาดทุนไปชาติหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงควรศึกษาต้นแบบการทำความดีจาก "ชาดก" เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการศึกษาปลูกฝังศีลธรรมผ่านเรื่องราวของบรมครูผู้เป็นต้นแบบคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ในเรื่องราวของชาดก
Show more...
Stories for Kids
Kids & Family
RSS
All content for นิทานชาดก is the property of 072 and is served directly from their servers with no modification, redirects, or rehosting. The podcast is not affiliated with or endorsed by Podjoint in any way.
นิทานชาดก ได้รับการสนับสนุนโดย คุณบุญชัย เบญจรงคกุล คนในโลกนี้อยากทำดี อยากเป็นคนดีทุกคน แต่เพราะไม่มีต้นแบบดีๆ เป็นแบบอย่าง จึงต่างคิดหามาตรฐานทำความดี ต่างๆ กันไป ที่พอมีปัญญาก็ทำดีถูกวิธีได้สั่งสมความดีเป็นบารมี ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นคน แต่ที่มีปัญญาน้อย เห็นผิดเป็นชอบก็หลงทาง ขาดทุนไปชาติหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงควรศึกษาต้นแบบการทำความดีจาก "ชาดก" เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการศึกษาปลูกฝังศีลธรรมผ่านเรื่องราวของบรมครูผู้เป็นต้นแบบคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ในเรื่องราวของชาดก
Show more...
Stories for Kids
Kids & Family
https://d3t3ozftmdmh3i.cloudfront.net/production/podcast_uploaded_episode/4116630/4116630-1610678531371-771c9a0b35f3b.jpg
เกฬิสีลชาดก พระลกุณฏกภัททิยะ ชาดกว่าด้วย ปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
นิทานชาดก
13 minutes 53 seconds
4 months ago
เกฬิสีลชาดก พระลกุณฏกภัททิยะ ชาดกว่าด้วย ปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย

ในดินแดนที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน มีพระภิกษุรูปหนึ่งนามว่า พระลกุณฏกภัททิยเถระ ท่านเป็นที่เลื่องลือในพระพุทธศาสนาด้วยเสียงอันไพเราะ และเป็นผู้แสดงธรรมได้อย่างลึกซึ้งจับใจ ผู้คนต่างยกย่องท่านว่าเป็นพระอรหันต์ผู้แตกฉานในปัญญา

แต่ถึงกระนั้น พระเถระรูปนี้กลับมีร่างกายที่เล็กจ้อย เตี้ยกว่าพระภิกษุรูปอื่นมากนัก จนบางครั้งก็ดูคล้ายสามเณรน้อย ทำให้ท่านมักถูกภิกษุรูปอื่นล้อเลียนอยู่เสมอ

วันหนึ่ง ขณะที่พระลกุณฏกภัททิยเถระยืนอยู่ที่ซุ้มประตูพระวิหาร มีหมู่ภิกษุชาวชนบทราว 30 รูปเดินทางมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เมื่อพวกเขาเห็นพระเถระตัวเล็กอยู่ที่ประตู ด้วยความคึกคะนองและเข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นสามเณรน้อย พวกเขาจึงพากันแกล้งท่าน จับชายจีวรบ้าง มือบ้าง ศีรษะบ้าง จมูกบ้าง หูบ้าง แล้วก็เขย่าตัวท่าน พลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก “เจ้าเณรน้อย มานี่สิ!” หรือ “เจ้าเณรนี่หน้าแก่จัง!” สร้างความอับอายให้พระเถระไม่น้อย

เมื่อแกล้งจนพอใจแล้ว ภิกษุเหล่านั้นก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ พระศาสดาทรงปฏิสันถารอย่างเมตตา แล้วพวกเขาก็ทูลถามถึงพระลกุณฏกภัททิยเถระผู้มีชื่อเสียงด้านการแสดงธรรมอันไพเราะ ว่าท่านอยู่ที่ไหน พระพุทธองค์ทรงยิ้มแล้วตรัสว่า “ภิกษุที่พวกเธอเห็นที่ซุ้มประตู แล้วพวกเธอแกล้งด้วยความคึกคะนองนั้นนั่นแหละ คือ พระลกุณฏกภัททิยเถระ”

ได้ยินดังนั้น ภิกษุเหล่านั้นก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดเลยว่าพระเถระผู้ยิ่งใหญ่จะมีรูปร่างเล็กเตี้ยเช่นนั้น จึงกราบทูลถามพระพุทธองค์ถึงสาเหตุ พระศาสดาตรัสว่า “ที่ท่านเป็นเช่นนั้น เพราะอาศัยกรรมที่ท่านเคยทำไว้ในอดีต” แล้วพระองค์ก็ทรงเล่านิทานจากอดีตกาลให้ฟังว่า:

นานมาแล้ว ครั้งที่ พระเจ้าพรหมทัต ทรงครองราชย์ในกรุงพาราณสี พระองค์มีนิสัยประหลาด ชอบความสนุกสนาน และไม่ชอบเห็นสัตว์หรือคนแก่ชรา ถ้าพระองค์ได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นม้าแก่ โคแก่ หรือแม้แต่เกวียนเก่า ๆ พระองค์จะสั่งให้พวกมันวิ่งแข่งกันจนเหนื่อยล้า หรือเกวียนก็พังไปเลย ไม่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังสั่งให้หญิงชรามาถูกกระแทกท้องให้ล้มลงแล้วลุกขึ้นร้องเพลง หรือให้ชายชรามาหกคะเมนตีลังกาเพื่อความบันเทิง หากได้ยินข่าวว่าบ้านใดมีคนชรา พระองค์ก็จะเรียกตัวมาบังคับให้แสดงสิ่งต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนานของพระองค์

การกระทำของพระราชาผู้นี้สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้คนและสัตว์เป็นอย่างมาก จนชาวเมืองต้องแอบส่งพ่อแม่ผู้เฒ่าของตนไปอยู่ต่างแคว้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทรมาน ทำให้ขาดการดูแลบุพการี เหล่าข้าราชบริพารของพระราชาก็ไม่ห้ามปราม แถมยังพึงพอใจกับการเล่นสนุกนี้ด้วยซ้ำ ด้วยกรรมชั่วนี้ เมื่อตายไป พวกเขาจึงไปเกิดในอบายภูมิ ทำให้จำนวนเทพบุตรในสวรรค์ลดน้อยลง

ท้าวสักกะ ผู้เป็นจอมแห่งเหล่าเทพ (ซึ่งก็คือพระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ) ทรงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงตรวจดูและทรงทราบสาเหตุ ท้าวสักกะดำริว่าจะต้องสั่งสอนพระเจ้าพรหมทัตให้สำนึกในความผิด

ในวันหนึ่งซึ่งมีงานมหรสพ ท้าวสักกะจึงแปลงกายเป็นชายชราคนหนึ่ง แบกตุ่มน้ำมันสองใบใส่เกวียนเก่า ๆ ที่เทียมด้วยโคแก่สองตัว พระองค์ขับเกวียนไปขวางหน้าช้างทรงของพระเจ้าพรหมทัตที่กำลังเสด็จผ่าน พระเจ้าพรหมทัตเห็นเข้าก็สั่งให้ทหารไปนำตัวชายชราและเกวียนมา แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของท้าวสักกะ มีเพียงพระราชาเท่านั้นที่มองเห็นเกวียนนั้นได้

ทันใดนั้น ท้าวสักกะก็ขับเกวียนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เหนือเศียรของพระเจ้าพรหมทัต แล้วทุบตุ่มน้ำมันให้แตก ทำให้น้ำมันไหลเลอะเทอะราชรถและพระวรกายของพระราชาจนเปรอะเปื้อน เหนียวเหนอะหนะและน่าขยะแขยง สร้างความอับอายยิ่งนัก

จากนั้น ท้าวสักกะก็หายไปในอากาศ แล้วปรากฏกายเป็นจอมเทพท้าวสักกะดังเดิม ยืนอยู่บนอากาศ แล้วตรัสสอนพระเจ้าพรหมทัตว่า “ดูก่อนพระราชาผู้ชั่วช้า! ท่านเบียดเบียนสัตว์แก่และคนชราอยู่เสมอ ท่านไม่คิดเลยหรือว่าท่านจะต้องแก่บ้าง? ความชราจะไม่มาถึงกายท่านเลยหรือไร? ท่านมัวแต่เห็นแก่สนุก ทำร้ายคนแก่มากมาย ทำให้ลูกหลานไม่สามารถดูแลพ่อแม่ของตนได้ หากท่านไม่หยุดการกระทำเช่นนี้ เราผู้เป็นจอมเทพจะทำลายท่านด้วยวชิราวุธ! นับแต่นี้ไป ท่านจงอย่าทำกรรมชั่วนี้อีกเลย!”

พระเจ้าพรหมทัตทรงหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง กราบทูลขอชีวิต ท้าวสักกะทรงชูวชิราวุธขึ้น เพื่อให้พระราชาตกใจ แล้วจึงทรงสอนถึงคุณของบิดามารดา และผลบุญของการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้สูงอายุ จากนั้นจึงเสด็จกลับวิมานไป

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา พระเจ้าพรหมทัตก็ไม่เคยคิดที่จะเบียดเบียนสัตว์แก่หรือคนชรามาเล่นสนุกอีกเลย

เมื่อพระพุทธองค์ทรงเล่านิทานจบแล้ว พระองค์ตรัสเตือนเหล่าภิกษุว่า “หงส์ก็ดี นกกระเรียนก็ดี ช้างก็ดี ฟานก็ดี ย่อมกลัวราชสีห์ทั้งนั้น จะถือเอาร่างกายเป็นประมาณไม่ได้ ฉันใด ในหมู่มนุษย์ก็ฉันนั้น ถ้าแม้เด็กมีปัญญาก็เป็นผู้ใหญ่ได้ คนโง่ถึงร่างกายจะใหญ่โตก็เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้”

นิทานชาดก
นิทานชาดก ได้รับการสนับสนุนโดย คุณบุญชัย เบญจรงคกุล คนในโลกนี้อยากทำดี อยากเป็นคนดีทุกคน แต่เพราะไม่มีต้นแบบดีๆ เป็นแบบอย่าง จึงต่างคิดหามาตรฐานทำความดี ต่างๆ กันไป ที่พอมีปัญญาก็ทำดีถูกวิธีได้สั่งสมความดีเป็นบารมี ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นคน แต่ที่มีปัญญาน้อย เห็นผิดเป็นชอบก็หลงทาง ขาดทุนไปชาติหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงควรศึกษาต้นแบบการทำความดีจาก "ชาดก" เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการศึกษาปลูกฝังศีลธรรมผ่านเรื่องราวของบรมครูผู้เป็นต้นแบบคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ในเรื่องราวของชาดก