
“เมื่อข้าพเจ้าเอ่ยปากและตั้งใจจะแนะนำบางอย่าง พวกเขาก็พากันบอกว่า ‘ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทยังไม่ทรงทราบเรื่องราวใดๆ’ ข้าพเจ้าจึงปิดปาก ความจริงข้าพเจ้ารู้ แต่เมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าพูด ข้าพเจ้าก็ไม่พูด” บทสัมภาษณ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ New York Times
หลังจากนั้น สิ่งที่พระองค์ทรงเลือกที่จะทำ โดยไม่ก่อให้เกิดแรงเสียดทานทางการเมืองและความขัดแย้งแบบที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 คือ การเชื่อมต่อกับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าประชาชนได้ผ่านช่วงหดหู่และการไร้ความหวังจากสภาวะของสงครามมาแล้ว สิ่งนั้นคือ "บทเพลงพระราชนิพนธ์"
บทเพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์ออกมานั้นคือเพลง “แสงเทียน” เมื่อ พ.ศ. 2489 โดยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์คำร้องภาษาไทย เพลงแสงเทียนนั้นแม้จะมีเนื้อร้องที่มีความเศร้าหมอง แต่ก็ยังมีประกายของความหวัง เช่น “ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่ เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า”
บทเพลงพระราชนิพนธ์ในช่วงขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 9 นั้น ตั้งต้นด้วยความรักและความปรารถนาดีที่เป็นสื่อกลางระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน และพระองค์ยังได้พระราชนิพนธ์บทเพลงขยายออกไปอีกมาก เช่น บทเพลงประจำสถาบันต่างๆ ซึ่งทำให้คนร้องเกิดความผูกพันและความรักมากขึ้น
#LueHistory #เพลงพระราชนิพนธ์